ถึงแม้ว่าห้องคอนโดบางห้องจะมีขนาดที่แคบเอามากๆ แต่ก็ใช่ว่าเราจำเป็นจะต้องอยู่อาศัยอย่างอึดอัดเสมอไป หากเรามีไอเดียและแนวทางการตกแต่งภายในที่ลงตัวและเข้ากับบริบทล่ะก็ ต่อให้พื้นที่น้อยแค่ไหน ก็สามารถเป็นที่พักผ่อนคลายเหนื่อยให้เราได้
เช่นเดียวกับคอนโดของคุณ วนิดาลาเวนเดอร์ ที่มีขนาดเพียง 21 ตารางเมตร แต่ด้วยการบริหารพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน อีกทั้งดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย ทำให้เป็นคอนโดที่น่าอยู่เอามากๆ เรียกได้ว่าเติมความสุขให้เต็มพื้นที่เลยทีเดียว ตามมาเก็บเป็นไอเดียกันได้เลยครับ
ตกแต่งคอนโด 21 ตร.ม. สวยน่าอยู่ ดูไม่แคบ แต่งแต้มความสุขให้เต็มพื้นที่
(รีวิวโดย วนิดาลาเวนเดอร์)
เรื่องมันเริ่มจากการอยากใช้ชีวิตลิขิตเอง ไม่ต้องให้ จส.100 มาคอยชี้ช่องบอกเราทุกวันว่าควรไปทางนี้ หลบทางนั้น เพราะรถในกรุงเทพ (เดี๋ยวนี้รวมถึงปริมณฑล) มันติดเกินบรรยาย เกินจะเก็งข้อสอบได้ว่า วันนี้ เวลาไหน ถนนอะไร เราถึงจะโชคดี
หวยเลยมาออกที่คอนโดติดรถไฟฟ้า ใช้เวลาแค่ 10 ก้าวยีราฟ ก็ได้เจอ “หนูด่วนเพื่อนแรบบิท” แล้ว
และเนื่องจากว่า ค่าครองชีพที่ดีดถีบโดดเด้งอย่างแรงกล้า ไม่ต้องเดาเลยว่าราคาคอนโดเล๊กกกเล็กกกก…ซักห้องนึงจะตารางเมตรละ ขนาดไหน อาจซื้อที่ต่างจังหวัดได้เป็นไร่ๆเลยเชียวแหละ
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่เราต้องหามาตรการขั้นสุดในการรักษาไว้ซึ่ง “พื้นที่แนวราบ” และบริหารการใช้ “พื้นที่แนวตั้ง” แทน
เริ่มเลยแล้วกัน…
ห้องที่ได้มา หน้าตาจืดๆ ขาวๆ-เทาๆ แบบนี้
เราจึงเริ่มลงมี ทำให้มันมีชีวิตชีวาขึ้นค่ะ โดยเราอยากได้คู่สีที่ไปด้วยกันได้กับห้อง ขาว-เทา และ เน้นความสดใส เลยออกมาเป็น สีวันเกิดเราเองค่ะ วันจันทร์
เตรียมตัว..สนุกสนาน
จุ่มละ
ละก็ลงเลย ปื้ดแรกจะกล้าๆกลัวๆหน่อยนะคะ เพราะผนังตรงหน้าเรามันขาวๆสวยๆอยู่แล้ว เรารู้สึกเกรงใจที่จะทำมันเปื้อน
จนกระทั่ง..
มันเริ่มออกมาดูเป็นรูปเป็นร่าง ทาซ้ำจนสีดูแน่นสม่ำเสมอ ไม่เหลืองด่างๆ
เริ่มภูมิใจในผลงานขึ้นมาทันที
หลังจากทาสีเสร็จ ก็หมดแรงพอดี 55 ได้เวลาล้างแปรง (แม้ว่าจะเมื่อยแขนและขี้เกียจมาก) ก็เอาแปรงทั้งหลาย จุ่มๆเอาไว้ในกระป๋องน้ำ แช่ให้มันสะอาด เผื่อคราวหน้ากลับมาเปิดห้องดูแล้วยังมีจุดที่ต้องแก้ หรือทาทับ จะได้ไม่ต้องวิ่งไปซื้อแปรงใหม่ค่ะ
จากนั้นก็ออกไปเสียทรัพย์ แล้วกลับมานอนนับวันรอเค้ามาส่งของ ความตื่นเต้นปนโกลาหลนิดๆ มันก็อยู่ที่วัน – ลงของ – นี่แหละค่ะ เราเปิดแอร์ไว้เอาใจช่างเลย เพราะรู้ว่างานแบบนี้มันทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน เอาใจไว้ก่อน เค้าจะได้ทำห้องเราออกมาสวยๆ เนอะๆๆ
มาถึงคุณพี่ก็…เจาะๆๆ ประหนึ่งใครเอามีดกรีดงานศิลปะบนผ้าใบ ผู้วาดย่อมปวดร้าวใจเป็นธรรมดา (ดราม่าปนน้ำเน่านิดๆ)
วัดองศา เสาตรงเป๊ะ
ประกอบร่าง
…กลายเป็น มุมตู้เสื้อผ้าาาาาาาาา ที่เราเลือกจะไม่ ทั้งเอาตู้ใหญ่ๆมาตั้ง หรือ สั่งช่างทำบิวท์อินปิดบานประตูทึบ
ระหว่างที่คุณพี่ช่างหนุ่ม กะลังเจาะๆ ติดๆ ต่อๆ โครงเสื้อผ้าไร้ตู้ของเรา หันหลังไปก็พบคุณพี่ช่างสาว กะลังแกะของเล่นใหม่ออกมาอีกชิ้น
แล้วเธอก็เสกให้เป็น…
ไวกว่าปรมาณู ช่างสาวแรงดี หันไปรื้อกล่องถัดไปทันที
ไขปื้ดๆ แข่งกับแบงค์ม่วง
ขอบคุณระบบทุนนิยม ที่ทำให้สินค้าบนโลกนี้ประกอบสำเร็จ เสร็จไวเกินจะชื่นชมได้ทัน เผลอแว้บเดียว เธอตอกฝาโป๊ก โป๊ก ประกอบตู้สำเร็จไป 2 ใบ
ความรัก…เบ่งบานได้ทุกที่ แม้เวลาทำงาน ความใกล้ชิดก็หล่อหลอมเป็นความรัก ช่างหนุ่มสาวของเราก็เช่นกัน (เค้าเป็นแฟนกันค่ะ ระหว่างทำงานเรียกกันว่า “ตัวเองๆ” น่ารักเชีย)
คนละมาก คนละน้อย ไม่สำคัญ … แค่ช่วยกันก็พอ
มือจับที่เลือกมาเป็นแบบ user-friendly เด็กอนุบาลยังเข้าใจได้ แค่นับ…
แล้วก็ติดลงไป เรียงตามลำดับสากล (นะคะ 55)
อะไรเก็บอยู่ตู้ไหนก็แค่..นับ 1 2 3 4
ตู้ยาสามัญ ติดปึ๊บ จบปั๊บค่ะ ชิ้นนี้ประกอบสำเร็จมาแล้วจากโรงงาน
ติดกระจกตรงขอบกำแพงที่ว่าง เลือกกระจกกรอบใหญ่สีขาวกลืนกับผนัง ไม่ทำให้สีเตะตาจนเกินไปในมุมแคบของห้อง มุมนี้ค่ะ
ส่วนโต๊ะเลือกเป็นท้อปสีไม้อ่อนๆ กับขาล้อเลื่อน 4 ล้อ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเอาไว้ใช้ทำงาน แต่เวลาเกิดฟีลอยากจะกินข้าวพร้อมกับหลายๆจาน ก็สามารถปลดล็อค เลื่อนล้อออกมาจากมุม ทำเป็นโต๊ะกินข้าวได้ หรืออยากจะย้ายมาวางกลางห้อง ใครจะกล้าว่า อยากไว้ตรงไหน ก็เลื่อนไปเลยค่ะ
ว่าแล้วก็ลองเลื่อนให้เข้ามุมทำงานที่เซ็ทไว้
หลังจากที่ประสบปัญหา สินค้าแต่งบ้านย่านบางนาขาดตลาด เราก็ทำได้แค่ให้ปล่อยห้องได้พักผ่อน จนกระทั่ง สิ่งที่ใฝ่หา กลับมานอนเรียงรายให้เราเสียตังค์แล้วววว นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราง้อมันจริงๆ (ต้องรอ + ไม่ได้ขอฟรีๆ)
เริ่มจากวัด
ตัด
ประกอบ (เหล็กชิ้นๆนี้แหละ ที่รอมานาน เพราะเราไม่ต้องการฉากเหล็กแบบอื่น)
ติด…
ชีวิตวันนั้น เราก็จะวนเวียนกับคำว่า วัด เจาะ ติด เสียงสกรูจะคอยหลอนเราอยู่ตลอดเวลา ทีวีก็ตั้งท่า รอแขวนซะ
เจาะมุมนั้น แล้วก็ย้ายไปมุมนี้ ห้องแค่ 21 ตร.ม. มันมีที่ให้หันรีหันขวางเยอะ ขนาดนั้นเลยหรอ !
แล้วคุณๆช่าง ที่ต่างเจาะจนหน้าเปลี้ย เพลียแรง (จนแอบได้ยินเมียโทรตาม 55) ก็ได้สานฝัน “มุมทีวีอเนกประสงค์” หรือ มีนิคเนมว่า “มุมทีวีตามแต่ประสงค์” (ได้ข่าวว่าชื่อจริงกับชื่อเล่นยาวเท่ากัน อินเทรนด์คนสมัยนี้จริงๆ)
มุมตู้เสื้อผ้า ก็ไม่ได้ตกสำรวจไปไหน ยังกลับมาเจอกันใหม่ในซีซั่น 2
ด้วยความที่เราอยากได้ “ม่านเทียมฝาตู้” แบบชิดขอบบน-ขอบล่าง ช่างอิคคิวซังของเราเลยต้องหาวิธีเจาะพลิกแพลง พิสดาร เล็กๆ เพื่อให้ด้านบนของม่านนั้น ชิดฝ้าจนฝุ่นซักโมเลกุลก็ขี้เกียจจะแทรกตัวเข้าไป
ต้อนรับแสงเช้า (หรือสาย) วันใหม่ด้วยการ …เปิดม่านซ้าย
…เปิดม่านขวา แน่นอนว่า ทุกอย่างในห้องนี้เป็นพี่น้องกัน เลยมีชื่อพ้องกันตามฉบับการตั้งชื่อพี่ๆน้องๆโดยทั่วไป มุมนี้จึงชื่อว่า “มุมเสื้อผ้าตามแต่ประสงค์”
บางทีก็เอาไว้เก็บเก้าอี้ (บันได) บางทีก็เอาไว้ซ่อนเตียง (แบบญี่ปุ่น) ซึ่งอย่างหลัง มักทำให้คนที่สามารถลอบมองเข้ามาในห้องได้ทัน ต่างสะพรึงว่า มึงนอนตรงไหน!? ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ แต่สีหน้าของคนเหล่านั้น ที่เราแอบลองมองกลับออกไปได้ทัน มันมีคำถามแบบนี้จริงๆ
เพราะเราอยากจะเก็บ “พื้นที่แนวราบ” ของเราเอาไว้ให้มั่น เราจึงเลือกใช้ฟูกนอนญี่ปุ่น แบบที่ดีไซน์วัสดุมาสำหรับคนปวดหลังโดยเฉพาะ
นับว่าเป็นการป้องกัน ก่อนรักษา แม้ว่าเราจะไม่มีอาการปวดหลังเรื้อรังอะไรเหมือนคนอื่นเค้า แต่ถ้าคนเหล่านั้นยังเรียกหาฟูกที่ว่ามานี้ คนธรรมดาสามัญอย่างเราคงนอนหลับสบายไร้รอยต่ออย่างแน่นอน
เมื่อเหลือที่มากมาย (ตราบเท่าที่ห้อง 21 ตร.ม. จะให้เราได้) เราก็มีมุมทำงานที่กว้างขวางและเปี่ยมสุข
ชั้นวางที่รอคอยส่วนประกอบอย่างใจจดจ่อ ก็ตอบแทนเราอย่างงดงามสมน้ำสมเนื้อ
แบ่งพื้นที่ ส่วนนั่งเล่น-นอน // ครัว-ห้องน้ำ ง่ายๆ ด้วยงบไม่กี่ร้อย พร้อมอากาศที่ยังถ่ายเทถึงกันบ้างตามสมควร
เบาๆ หวานๆ ตัดอารมณ์แข็งแรงทนทาน ของภูมิประเทศในห้องครัว แต่ไม่รกจนน่ารำคาญ เพราะสามารถรูดเก็บไปข้างหลังได้ เวลาต้องการทางเดินเคลียร์ๆ
ใช้กำแพงทุกหย่อมให้คุ้มค่า ติดราวแขวนถังเหล็ก ไว้ใส่ช้อน ส้อม ที่ล้างแล้ว
อีกมุมไว้ตาก กระทะ ตะหลิว และหม้อไหในอนาคต
รถเข็นที่ช่างสาวประกอบไว้ มาซุกตัวเตรียมสไลด์จากใต้เตาเวลาทำกับข้าว
เอาไว้ใส่สารพัด ทั้งเครื่องปรุง หม้อหุงข้าว กระทะที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็จอดไว้ตรงนี้
ตัวแขวน อสมมาตร สีขาวขัดให้อารมณ์ติสนิดๆ
มุมทีวีตามแต่ประสงค์ ที่ตอนนี้เริ่มมีข้าวของเข้ามาจับจองพื้นที่
ใต้ระดับทีวี คือชั้นวางกล่อง router นั่นนู่นนี่ และชั้นวางรองเท้า ใช้กล่องใส่รองเท้าที่มีฝาเปิดปิดเป็นผ้าโปร่ง เวลาจะเลือก ก็หยิบรองเท้าได้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดทีละกล่อง ยกเว้นกล่องทางขวาด้านล่าง เป็นกล่องพลาสติกมีฝา เอาไว้ใส่รองเท้าที่คาดว่าจะ รีบ หยิบ ใส่ ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ
พอย้อนกลับมาดู Before อีกครั้ง ห้องของเราจากสีหม่นๆเทาๆ เล็กๆ ดูคับแคบ ก็กลายเป็นห้องสีสดใส กระตุ้นหัวใจให้เบิกบาน แบ่งส่วนการใช้งานด้วยโทนสีและม่านกั้น
ห้อง 21 ตร.ม. ห้องเดิม ดูใหญ่ ใช้งานได้กว้าง และหลากหลายมากขึ้น เราทำได้ทั้งนอน กิน กลิ้ง ฮู้ป โยคะ นอนแผ่อ่านหนังสือ เข้ามุมจิบชา และ กลิ้ง กลิ้ง กลิ้ง ได้เต็มที่ ในห้องเล็กๆ นี้ห้องเดียว
ถึงแม้จะโดนแปลกใจบ่อยๆ ว่าห้องเท่านี้อยู่เข้าไปได้ยังไง แต่การเลือกด้วยใจ – ใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และ ไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของเรา ก็ทำให้เรามีความสุขได้ ในที่ของตัวเอง
ที่มา : วนิดาลาเวนเดอร์