บ้านที่มีอายุการใช้งานมานานหลายสิบปี อาจจะมีสภาพที่หม่นหมองไม่น่ามอง การรีโนเวทคือสิ่งที่จะช่วยชุบชีวิตให้บ้านเรากลับมาน่าอยู่ขึ้นอีกครั้งได้ แต่การรีโนเวทบ้านก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่คิดแล้วจะทำเลย ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเสียก่อน
วันนี้ ในบ้าน จะพาชาวเว็บไปชมการรีโนเวทบ้านหลังหนึ่งของคุณ kwiswis ที่ได้ทำการแปลงโฉมจากบ้านเก่าอายุ 30 ปี ให้กลายเป็นบ้านแสนสวยอารมณ์วินเทจ บรรยากาศเหมือนรีสอร์ทพักผ่อน ทั้งสวยงามและน่าอยู่มากๆ ซึ่งในขั้นตอนการรีโนเวทก็ได้ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย แต่ก็ได้กัดฟันสู้จนสำเร็จออกมาเป็นบ้านในแบบที่ต้องการ เรามาดูกันเลยครับ ว่าจะสวยถูกใจชาวเว็บกันหรือไม่
Before & After มหากาพย์แปลงโฉม บ้านหอยทากกก
(โดย kwiswis)
หลังจากความพยายามอันยาวนาน…. 1 ปีเต็มๆ ที่ต้องสู้รบปรบมือกับสารพัด “ช่าง (มัน)”
วันนี้บ้านหลังที่ 2 ของพวกเราก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้วค่ะ
หากใครจำบ้านหลังแรกของพวกเราได้ บ้านหลังนี้แตกต่างจากเดิมมากมาย
เพราะเป็นบ้านหลังเก่าของคนอื่นอายุกว่า 30 ปี ที่กลายมาเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเราค่ะ
วันนี้สบโอกาสหลังจากทำหน้าที่เป็นแม่วัวให้ลูกน้อยได้สลบก่อนเวลา เลยอยากมาแชร์ประสบการการต่อเติมบ้านกับเพื่อนๆชาวชายคา ว่ามันหินนนน….อย่างที่พวกเราไม่คาดคิดมาก่อน เรียกได้ว่า ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่น่าจะง่ายกว่า
มาชมกันดีกว่าค่ะ ว่าเราแปลงโฉมบ้านหลังนี้ออกมาเป็นแบบไหนค่ะ
อย่างที่เกริ่นมาข้างต้นว่า บ้านหอยทาก
หรือจริงๆ พวกเราตั้งชื่อให้น่ารักว่า “บ้านหมอนอุ่น” หลังนี้อายุอานามไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นการจะทำการต่อเติม แปลงโฉมจึงจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากคุณสถาปนิกและวิศวกร เพราะเกรงว่าบ้านอาจจะถล่มหากสุ่มสี่สุ่มห้าทำกันเอง -_-“”
หลังจากคุยกันจนได้แบบที่ต้องการและสามารถสร้างได้จริงโดยคงโครงสร้างของบ้านเดิมไว้ได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนหาช่าง ซึ่งพวกเราก็ตัดสินใจใช้ช่างในท้องถิ่น เพราะคิดว่า น่าจะสะดวกและฝีมือก็ไม่น่าจะต่างจากช่างกรุงเทพฯเท่าไหร่ เพราะที่นี่ก็เป็นเมืองใหญ่ มีตึกก่อสร้างใหม่มากมาย
แต่ดูเหมือนพวกเราจะคิดผิดถนัด….หรือว่าเป็นโชคร้ายของพวกเราเอง…
การก่อสร้างที่ดูเหมือนจะง่าย กลับกินเวลายาวนานหลายเดือน เพราะช่างทำงานไม่ต่อเนื่อง หยุดไปงานบุญ งานบวช ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ ทำนา เกี่ยวข้าว เก็บลำไย ทุกเทศกาลแกหยุดหมด สร้างความปวดหมองให้พวกเราเป็นอย่างยิ่ง จากที่คิดว่าจะเสร็จภายใน 5-6 เดือน กลายเป็นปาไปเป็นปี….
ปัญหาเกิดจากสัญญาไม่ได้ระบุค่าปรับไว้หากทำงานไม่เสร็จตามเวลาที่ระบุ และพวกเราเผลอใจดีให้เบิกเกินงานที่ทำได้ ช่างเลยย่ามใจเอาเงินไปใช้สบายใจแฮ
สุดท้ายเรื่องจบที่ มาพูดทำนองจะขอเงินเพิ่ม เพราะบ่นว่าขาดทุน เงินไม่พอจ่ายคนงาน ถ้าไม่มีจ่ายก็ต้องหยุดงาน
สำหรับคนที่เจอปัญหานี้ อย่ายอมให้เบิกเงินเป็นอันขาด เพราะถ้ามาอีกหรอบนี้ ถึงให้เบิก ทั้งช่าง ทั้งเงิน ก็หายจ้อยไปกับสายลมซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
(เล่าไปสลับกับรูปความคืบหน้าปัจจุบันที่เกือบจะเสร็จ..รึป่าว???)
บ้านหลังนี้ เลยเจอช่างไปหลายชุด
กว่าจะเริ่มเสร็จเห็นเป็นรูปร่างอย่างในภาพที่เห็นค่ะ ปัจจุบันเหลืองานเก็บสี และงานเฟอร์นิเจอร์ ก็น่าจะได้เข้าอยู่ซะที
ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างในการทำงาน
นอกจากเจอพวก ช่าง(มัน) แล้ว คือการวางแผนงานในการทำงานของผู้รับเหมา ที่วางแผนงานแบบงูๆ ปลาๆ ให้ช่างเข้าทำงานไม่มีขั้นตอน ต้องเก็บงานไปๆมาๆ ไม่จบซะที ขนาดพวกเราถึงขั้นต้องเข้าไปดูเอง ว่าช่างไหนควรทำอะไรก่อนหลัง ก็ยังติดปัญหา นัดช่างแล้วเบี้ยว รอกันไปมาสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนช่างเพราะรอไม่ไหว ปัญหาก็วนไปวนมาเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง
หากใครที่จะจ้างผู้รับเหมา ในสัญญาควรมีตารางงานและเวลาระบุให้ชัดเจนว่าอะไรควรทำเสร็จเมื่อไหร่ และควรทำอะไรก่อนหลังก็น่าจะช่วยให้ควบคุมงานก่อสร้างและการเบิกจ่ายเงินได้ง่ายขึ้น
หากผู้รับเหมาไม่ยอมทำตารางงาน…ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ให้ลองหาเจ้าอื่นเลยน่าจะดีกว่าค่ะ
อีกปัญหาที่มักเจอเวลาต่อเติมคือ ผิดใจกับเพื่อนบ้าน…
ดังนั้นควรไปบอกกล่าวเพื่อนบ้านในระแวกใกล้เคียง โดยเฉพาะหลังที่มีส่วนเชื่อมต่อกับบ้านของเรา ว่าบ้านเราจะทำการต่อเติมและอาจเกิดความไม่สะดวกกับเพื่อนบ้านเป็นระยะเวลาหนึ่ง ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้า หากเกิดความเสียหายอะไรกับทรัพย์สินของเค้า ก็ให้มาบอกเราได้ กันไว้ดีกว่ามาผิดใจกันภายหลังค่ะ
และในกรณีที่มีการต่อเติมใช้พื้นที่ผิดแบบไปจากเดิม
ก็ควรทำการขออนุญาตกับทางเทศบาลหรือเขตให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้องเรียน หรือมีปัญหาฟ้องร้องกันภายหลังค่ะ
มาชมภาพกันเลยค่ะ…
ว่าเราแปลงโฉมบ้านหลังนี้ไปถึงไหนแล้ว
มาชมกันต่อเลยค่ะ…
บ้านก็ยังอยู่ระหว่างเก็บงานตามจุดต่างๆ และเก็บสีค่ะ
สภาพของบ้านหลังเดิม จริงๆ ยังถือว่า ดูดีเทียบกับอายุเค้ามากค่ะ
แต่ติดที่ออกจะมืดทึบไปหน่อย ด้วยบ้านสมัยก่อน เพดานจะค่อนข้างเตี้ย และหน้าต่างค่อนข้างแคบแถมมีติดเหล็กดัดมุ้งลวดหลายชั้น
บ้านเลยมืดๆ ทึมๆ ไม่ค่อยน่าอยู่เท่าที่ควรค่ะ
พวกเราเลยตัดสินใจ…ทะลวงหน้าต่างประตู ทั้งหลังเพื่อทำใหม่
และต่อเติมส่วนของห้องนอนให้เกือบทุกห้องมีระเบียงเป็นของตัวเองค่ะ
ที่ต้องแปลงโฉมมากๆอีกอย่าง คือ ห้องน้ำ…
ซึ่งต้องเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด และขยายหน้าต่างให้กว้างขึ้นให้ระบายอากาศได้ดี
เลาะกระเบื้องเก่าที่เหลืองเก่าไม่น่าใช้ แล้วเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ให้ดูสะอาดตา โดยเลือกโทนสีให้ห้องดูกว้างด้วยค่ะ
บ้านหลังนี้เดิมเป็นทรงสเปนค่ะ
แต่เจ้าของเดิมทำการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาใหม่ เลยไม่ค่อยเป็นทรงสเปนอย่างที่เห็นค่ะ พวกเราเลยคิดว่า น่าจะแปลงให้ดูน่ารักๆ หน่อย ออกเป็นสไตล์ตะวันตก และทาสีให้น่ารักสะดุดตากว่าบ้านทั่วๆไปค่ะ
เดิมบ้านหลังนี้มีทั้งหมด 5 ห้องนอน ด้านหลังเป็นห้องครัวและลานซักล้างด้านข้างเป็นห้องแม่บ้าน และลานจอดรถ
หลังปรับปรุง ได้มีการเปลี่ยนผังของบ้านใหม่ ให้ด้านหลังมีห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้อง ส่วนของลานจอดรถก็ต่อเติมให้เป็นห้องนอนอีก 3 ห้อง รวมเป็นทั้งหมด 9 ห้องค่ะ (ที่บ้านมีกันเยอะ…ถ้าอยู่กันครบๆ มี 5 ห้องคงนอนไม่พอค่ะ เลยต่อเติมเผื่อไว้เลย)
พวกเราตั้งใจว่า การตกแต่งห้องทั้ง 9 ห้อง จะไม่ให้เหมือนกัน
คือ ใครชอบแบบไหน ก็ลองๆ ออกความคิดมา แล้วตกแต่งไปตามที่สมาชิกแต่ละคนชอบค่ะ แต่ไปๆ มาๆ เหลือคนออกแบบกันอยู่สองคนพี่น้อง… แต่ก็พยายามเอาความคิดของแต่ละคนที่อยากได้มารวมๆกันในบ้านหลังนี้ค่ะ
1 ปีที่ผ่านมา เหนื่อยจริงๆ ค่ะ
แต่เห็นบ้านตอนนี้ก็ เริ่มหายเหนื่อยขึ้นมาบ้างค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ และโคมไฟในบ้านหลังนี้ พวกเราตั้งใจจะหาแบบที่ชอบ และออกแบบสั่งทำเอง…
กว่าจะหาช่างเฟอร์นิเจอร์ได้….อืม….ก็หืดขึ้นคอกันทีเดียว เรียกว่าวิ่งไปทั่วเชียงใหม่ แต่สุดท้ายก็มาเจอที่บ้านถวายค่ะ
รูปเกือบหมดแล้วค่ะ
สวนด้านหน้าบ้านและที่จอดรถเดิม ถูกเปลี่ยนผังใหม่ และทำทางเดินใหม่
น้องสาวกับน้องเขยเป็นคนออกแบบ และทำแบบสำหรับเททางเดินกันเอง (แต่มีช่างช่วยนะคะ เดี๋ยวจะเกินจริงไปหน่อย) เรียกได้ว่า มีทางเดินแบบนี้ที่เดียวในโลกแน่นอนค่ะ เพราะน้องเขยบอกว่า เหนื่อยมาก ถึงมีคนมาจ้างก็ไม่ทำแล้ว….เอื๊อกกก
ประตูหน้า…ปัจจุบันยังไม่ได้ใส่ประตูเหล็ก
เลยเอาประตูรั้วเก่ามากั้นกันน้องหมามาอึ กับคุ้ยหญ้าเล่นไปก่อน ใครรักน้องหมา เลี้ยงน้องหมา อย่าปล่อยน้องหมาออกมาวิ่งคนเดียวนะคะ เพราะว่าเค้ามักจะชอบไปอึบ้านคนอื่นค่ะ
รูปนี้เป็นห้องแรกที่เรียกว่า เสร็จสมบูรณ์เกือบ 100 %
มาชมกันค่ะ
ส่วนห้องนี้ หวานๆ
เอาใจสาวน้อย รักสีชมพู
ห้องสไตล์ทะเลๆ แต่อยู่ในเมืองภูเขา
เป็นความชอบส่วนตัวค่ะ
เสร็จเรียบร้อยแล้ว
มาดูหน้าบ้านกันก่อนเลยค่ะ
ส่วนด้านหน้าบ้าน เปลี่ยนแปลงแปลนของเดิมที่จอดรถด้านข้างบ้าน
เป็นด้านหน้าบ้าน และเพิ่ม ทางเดินกับประตูทางเข้า ให้เป็นจุดนำสายตาไปสู่ตัวบ้านค่ะ
ประตูเหล็ก ทางเข้าบ้าน
ออกแบบโดยน้องสาวค่ะ
สวนสวยๆ ก็ฝีมือ น้องสาวกับน้องเขยเช่นกันค่ะ
ตอนนี้น้องสาวตัวดำปี๋เพราะลุยซื้อต้นไม้เองค่ะ
เชิญเข้ามาในบ้านกันก่อนค่ะ
ส่วนของโถงรับแขกที่พวกเราอยากลองทำร้านกาแฟเล็กๆ ตามที่ฝันกันไว้
โต๊ะเก้าอี้เรียกว่า เพิ่งเสร็จกันสดๆ
สั่งทำกันหมาดๆ หลังตัดสินใจแบบฉับพลันกันว่า มามะ มาลองดูสักตั้ง
ดอกไม้ก็จัดเอง
ถ่ายเอง บ้าเห่อเอง อะไรเอง
กับเก้าอี้หลากสี
ที่คนสั่งทำไม่รู้จะเลือกสีอะไรดี เลยสั่งมันทุกสีซะงั้น
จากชั้นล่างที่ยังคงสภาพของบ้านเดิมไว้
เว้นแต่เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ให้เป็นสไตล์หวานๆ เข้ากับหน้าตาของบ้าน มาถึงชั้นบน ที่พวกเราเปลี่ยนแปลงกั้นห้องใหม่ และเปลี่ยนประตูหน้าต่างให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรับแสงภายนอกบ้าน เพราะเพดานของบ้านสมัยก่อนจะค่อนข้างต่ำค่ะทำให้เวลาอยู่รู้สึกเหมือนมีอะไรกดๆทับๆเราไว้ ดูอึดอัด
พวกเราเลยใช้สี และแสงช่วย โดยเปลี่ยนสีของผนังและพื้นในส่วนโถงบันไดที่เดิมเป็นสีไม้แดงเข้ม เป็นสีขาวให้ดูสว่างและรู้สึกโปร่งเทียบกับแบบเดิมค่ะ
โถงบันไดอีกซักรูปค่ะ
ส่วนภายในห้อง ก็มีการเปลี่ยนแปลงพวกกระเบื้องห้องน้ำที่เหลืองเก่า
อายุหลายสิบปีให้ดูใหม่ขึ้น แต่ยังคงโครงสร้างเดิมและพื้นไม้ภายในห้องเดิมไว้ค่ะ เวลาเดินก็จะยังมีเสียงไม้ลั่นเหมือนเวลาเดินบนบ้านไม้ เพราะบ้านหลังนี้ภายนอกดูเป็นปูนก็จริง แต่พื้นและโครงสร้างพื้นเป็นไม้ค่ะ
โดยส่วนของตึกนี้ จะมีทั้งหมด 5 ห้องนอนค่ะ มาชมห้องนอนกันเลยค่ะ เริ่มจากชั้น 3 มี 2 ห้องค่ะ
และห้องที่ 2 ออกเป็นแบบไทยประยุกต์นิดๆ ค่ะ
เริ่มจากไปเจอแบบเตียงในอินเตอร์เนทแล้วชอบมาก เลยมาประยุกต์ให้เข้ากับห้องค่ะ
ต่อด้วยห้องชั้น 2 มี 2 ห้องเช่นกันค่ะ
น้องสาวบอกอยากได้ฝรั่งเศสนิดๆ เลยช่วยกันคิดออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
อีกห้อง มีแรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ค่ะ
เพราะท่านชอบสีขาว กับสีครีมทองค่ะ
ลงมาเป็นห้องสุดท้ายของตึกหลังเก่า
ที่เป็นความชอบส่วนตัวเพราะเคยเห็นเตียงลักษณะแบบนี้ที่เมืองนอก คือมีผสมระหว่างผักตบกับไม้ แต่สงสัยว่าทำไมเมืองไทยไม่มีกับเค้าบ้าง เลยสั่งช่างให้ลองทำขึ้นมาค่ะ
ไอเดียโคมไฟต่างๆ ในบ้าน เป็นไอเดียน้องสาวทั้งหมดค่ะ
ต้องยกนิ้วให้เธอจริงๆ ที่จับนู่นมาผสมนี่ จนออกมาแปลกตา ลงตัวทีเดียว ส่วนห้องต่อไปเป็นส่วนของตึกใหม่ที่เดิมเป็นส่วนที่จอดรถ แต่ต่อเติมให้เป็นอาคารห้องนอน 3 ห้องค่ะ
เริ่มจากชั้นล่างก่อน ห้องนี้เป็นรีเควสจากเพื่อนหนุ่มค่ะ เพราะคุณเค้าบอกว่า ถ้ามีแต่หวานๆทุกห้อง คาดว่าคงไม่กล้ามานอนแน่ ก็จัดไปค่ะ
ส่วนห้องอีกห้อง จะเป็นแนวทะเลนิดๆ ขาวๆ
เป็นแนวที่ชอบอีกแนวและอยากลองทำดูค่ะ แต่กว่าจะเสร็จเรียกว่าทำแล้วทุบ ทำแล้วทุบ กว่าจะไปวัดไปวาได้ เพราะงานซีเมนต์ขาวขัดมันนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ สุดท้ายไปจบที่ ซีเมนต์คัลเลอร์
ห้องสุดท้าย
พวกเราเรียกว่า ห้องเจ้าหญิง เพราะห้องนี้เธอสีชมพูหวานแหวว เอาใจเพื่อนสาวค่ะ
และท้ายสุด ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเช่นเคยค่ะ
และขอบคุณ น้องสาว น้องเขย คุณสามี ที่เป็นกำลังใจ และช่วยกันลงแรงจน บ้านหมอนอุ่น หลังนี้ เป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ฝันไว้
ขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ ที่ให้โอกาสพวกเราได้แสดงฝีมือ ทำบ้านหลังนี้ขึ้นมาตามที่พวกเราหวังและตั้งใจไว้ค่ะ
และขอบคุณ เจ้าตัวเล็ก (ลูกสาวและหลานชาย) ที่เป็นกำลังใจสำคัญ ให้แม่และป้าสู้กับสารพัดช่างมาได้จนถึงวันนี้ เพราะอยากให้เจ้าสองตัวเล็กมีบ้านน่ารักๆ ไว้วิ่งเล่นและเติบโต
ถึงแม้มีอุปสรรคมากมาย แต่สุดท้าย…..ฟ้าหลังพายุฝนมักจะสวยเสมอค่ะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านอีกครั้งที่เป็นกำลังใจเสมอมาค่ะ
ขอจบมหากาพย์บ้านหอยทากไว้เพียงเท่านี้
ที่มา : kwiswis