เมื่อซื้อบ้านจากโครงการมา สิ่งที่ต้องทำก่อนอยู่อาศัยก็คือการตกแต่งปรับปรุง เพื่อให้การใช้งานตอบรับกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย ซึ่งในการตกแต่งนั้น เราก็ต้องทำการวางแนวทางและวางแผนให้ดี เพื่อให้ได้บ้านออกมาในรูปแบบที่เราต้องการมากที่สุด
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาชาวเว็บไปชมการตกแต่งบ้านเดี่ยวขนาดสองชั้นของคุณ CallMeSEE กันครับ เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปโปร่งโล่งและทันสมัย ใช้เวลาในการตกแต่งถึง 2 ปี โดยค่อยๆ ทะยอยแต่งทีละเล็กน้อย จนกลายเป็นบ้านที่สวนน่าอยู่ แบะน่าพึงพอใจอย่างมากครับ
ตกแต่งบ้านเดี่ยวสองชั้น ภายใต้คอนเซ็ป “โปร่งโล่ง & ทันสมัย” ใช้เวลา 2 ปีกว่า
(โดย CallMeSEE)
ต้องเล่าย้อนความไปไกลเลยครับ ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด พอแอดมินชั่นติดก็ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนมหาลัยในกรุงเทพฯ ครับ เรียนจบ 4 ปี (จบปี 2554) ก็หางานทำก่อนเลยครับ ตอนนั้นไม่ได้มีแพลนเรียนต่อป.โทเลยครับ สิ่งเดียวที่นึกในใจคือ “อยากมีเงินเดือนเป็นของตัวเองหวะ”
โชคดีครับที่ช่วงใกล้เรียนจบมีการจัดงาน Jobs Fair ในมหาลัยพอดี เลยได้มีโอกาสสมัครงาน กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พอเรียนจบก็กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ที่เพชรบูรณ์รอการประกาศผลสัมภาษณ์งาน ช่วงรอก็ว่างครับ ไล่ทำบุญไปทุกที่ ที่ไหนเค้าว่าดี ที่ไหนเค้าว่าเด็ด ผมจัดหมดเลยครับ ฮ่าๆๆๆ
สุดท้าย ท้ายสุด บริษัทที่ผมสมัครไว้ตอนงาน Jobs Fair ก็โทรมาแสดงความยินดีครับว่า “คุณได้ทำงานกับบริษัทเราค่ะ!!!!” ดีใจสิครับตอนนั้น แต่ดีใจได้ไม่ถึง 10 วิมั้งครับ พนักงานก็แจ้งต่ออีกว่า “ต้องไปทำงานที่สาขาเชียงใหม่นะคะ”
ห๊ะ!!!! ตอนนั้นผมสติหลุดเลยครับ คือไม่อยากได้งานที่ไกลบ้านตัวเอง เลยตัดสินใจปฏิเสธไปครับ นี่เป็นไงหละ เลือกได้ๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากวางสายก็โทรปรึกษาท่านพ่อท่านแม่ ฮ่าๆๆๆ “ได้งานละนะแม่ แต่ปฏิเสธไปละ” ฮ่าๆๆๆ แม่ก็ถามว่า “ทำไมปฏิเสธหละลูก”
ผมก็ตอบว่า “มันไกลบ้านอะแม่ ตั้งเชียงใหม่เลยนะ” แม่ต่อความครับ “ไกลก็ไม่เป็นไร เอาไว้ก่อนดีไหม แม่ไปหาได้”
เท่านั้นแหละครับ สติ สตางค์มาเลยครับ กดวางสายแม่ทันที แล้วรีบโทรกลับไปบริษัทที่โทรมาเมื่อกี้
“ขอโทษนะครับ ผมชื่อ…..นะครับ คนที่ทางบริษัทโทรมาเมื่อซักครู่เรื่องการประกาศผลการสัมภาษณ์งานครับ”
.
.
.
“เอ่อ….คือ ผมตกลงรับงานนี้ครับ”
ฮ่าๆๆๆ โทรไปง้อบริษัท โชคดีมากๆ ครับที่เค้ายังให้โอกาสผมอยู่ ก็เลยได้ไปทำงานที่เชียงใหม่
พอทำงานได้ 6 เดือน ตอนนั้นคิดครับ “เราจะเสียค่าเช่าหอไปทำไม สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ของเรา เอาเงินไปผ่อนบ้านไม่ดีกว่าหรอวะ พ่อกับแม่ก็มาเที่ยวบ่อย จะได้นอนสบายๆ”
พอตัดสินใจได้ก็โทรปรึกษาพ่อกับแม่เลยครับ ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรก เป็นบ้านที่สร้างเสร็จแล้วนะครับ เหลือตกแต่งแบบ 100% คือในบ้านไม่มีอะไรเลยซักอย่าง
ตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงตอนนี้ในผมใช้ระยะเวลา 2 ปีกว่า ผมค่อยๆ แต่งบ้านทีละนิด ทีละอย่าง ทีละส่วน จนในที่สุด บ้านในฝันของผมก็เป็นจริง
ช่วงแรกๆ ที่ตัดสินใจซื้อบ้าน ได้มีโอกาสเข้าไปบ้านโครงการต่างๆ แค่ 3 โครงการเองครับ
- โครงการแรก คือโครงการนี้แหละครับ บ้านพร้อมที่ดิน ถูกใจทุกอย่าง ติดที่ราคาอย่างเดียว
- โครงการที่สอง บ้านพร้อมที่ติน ตกแต่งให้พร้อม แต่ติดที่ความปลอดภัยของหมู่บ้านและการเดินทาง
- โครงการสุดท้าย เป็นบ้านพร้อมที่ดิน แต่การสร้างบ้าน โครงสร้างใดๆ เห็นคานเอียงๆ เลยตัดไปเลย
ช่วงตัดสินใจนี่เครียดมากครับ ระหว่างโครงการแรกที่ อยู่อำเภอเมือง ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ทำเลดีมากๆ ใกล้สนามบิน ใกล้ห้าง บ้านเรียบร้อยดีมาก แต่ติดที่ราคา กับอีกโครงการที่ให้ครบทุกอย่าง คือเข้าอยู่ได้เลย แถมราคายังถูกกว่า แต่ติดที่ความปลอดภัย
หนักใจสุดๆ ครับ แต่สุดท้ายก็เลือกโครงการแรกครับ เหตุผลคือ ผมอยุ่คนเดียว ตอนที่ซื้อก็อายุแค่ 23 คือ ตอนนั้นค่อนข้างป๊อดครับ!!!! ฮ่าๆ โครงการนั้นถ้าเราอยู่ เราก็จะคอยระแวงเรื่องความปลอดภัย แต่เราเลือกที่จะซื้อความปลอดภัยได้ แล้วทำไมเราไม่เลือกหละ….
อีกอย่างวิวหลังโครงการสวยมากๆ ครับ เป็นดอยสุเทพ
ส่วนตัวบ้านก็เป็นบ้านพื้นที่เล็กๆ ครับ 41 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เอาพื้นที่กว้างๆ นี่ไม่ไหวครับ ที่ดินแพงสุดติ่งเลยครับ อย่างกับทองคำ แต่ผมโชคดีหน่อยที่บ้านข้างๆ ทั้งสองหลังเค้าพิ้นที่เยอะครับ ก็เลยดูไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่
พอซื้อเรียบร้อย ช่วงเดือนแรกยังพักอยู่หออยู่ครับ เราจ่ายตังค์ค่าหอไปแล้ว เสียดายครับ!!!!
เงินก้อนแรกที่ตัดสินใจจ่ายไปก็คือ ผ้าม่านครับ ตัดสินใจทำผ้าม่านแบบพับสองชั้น คือว่า ราคาที่ดินนี่แพงแล้ว เจอผ้าม่านไปเข่าอ่อนเลยครับ อะไรจะขนาดนั้น ปาดเหงื่อเลยหละครับ สั่งทำประมาณเกือบเดือน
ทุกบานก็ประมาณนี้ครับ ผมเน้นโทนสีสว่างๆ เพราะต้องการให้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งใจไว้ว่าจะเลือกสีโทนมืดๆ หน่อย
ระหว่างนั้นก็เอาแบบแปลนมากางเลยครับ ออกแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใดๆ นั่งออกแบบอยู่นาน เลือกโน่น นี่ นั่น สีที่เราชอบ อยากได้บ้าน
ที่ดูไม่รก เรียบร้อยๆ หน่อยครับ แต่ก็ให้ดูมีอะไรๆ (อะไรๆ นั่นคืออะไร ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองหรอกนะครับ แต่อยากให้มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะดู
หนัง กินข้าว หรืออารมณ์ขยันอยากทำงาน ฮ่าๆๆๆ)
สั่งเฟอร์นิเจอร์ใช้เวลาค่อนข้างนานมากๆ ครับ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้ำท่วมกรุงเทพ รอนานจนหมดเวลาที่อยู่หอได้ ก็เลยได้ย้ายมานอนที่
บ้านครับ เฟอร์นิเจอร์ใดๆ ยังไม่เข้าซักตัว ได้หอบพัดลมกับหมอนไปนอนข้างบน ลำบากครับ แต่มีความสุขสุดๆ คิดในใจ นี่บ้านเรานะเว้ยยยย
ระหว่างนั้นก็ติดแอร์ ได้ช่างทำห้องครัวพอดี และแล้วเฟอร์นิเจอร์ตัวแรกก็เข้าครับ โซฟาผ้าสีครีมแบบถอดซักได้
ดูมันโล้นๆ หลอนๆ เลยไปหาอะไรมาใส่เพิ่มครับ
ห้องครัวก็เป็นแบบง่ายๆ ครับ ผมไม่เน้นทำกับข้าวหนักๆ เลยไม่ได้ให้ช่างเค้าฝังเตา เลยไปหาซื้อเตาแม่เหล็กเหนี่ยวนำเอา สะดวกดีครับ
มีแก้นิดหน่อยครัว ผมไปซื้อก๊อกน้ำมาเปลี่ยนใหม่ แล้วเห็นพื้นที่มันว่างๆ ก็เลยไปหาซื้อชั้นที่ Index มาประกอบเอง เอาไว้วางเครื่องใช้ต่างๆ ซื้อเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดมีด ชุดทัพพี แล้วก็หาอะไรมาติดที่กระจกให้เป็นส่วนตัวหน่อยครับ
มีโต๊ะกินข้าวละคับ ชุดนี้โปรพอดี จัดเลยครับ หน้าโต๊ะเป็นกระจก ทำความสะอาดง่ายครับ
ตู้โชว์ ชั้นกั้นห้องก็มาติดๆ
ชุดชั้นวางทีวีนี่มาทีหลัง รอจนเราได้โทรถามทางคอลเซนเตอร์เลยครับ ส่วนกิ่งไม้แห้งๆ ก็ซื้อมาจัดเองครับ จัดไว้ 4 ชุด คืออยากมี แต่หาที่ลงไม่ได้ วางๆ ไปก่อนครับ
เงินหมดครับ หมดแบบไม่เหลือ แต่ก็ได้เฟอร์นิเจอร์มาเยอะพอสมควร แต่ยังไม่พอใจครับ บ้านก็ยังโล่งๆ อยู่เลย ช่วงนี้เลยทำงานเก็บเงินก่อนครับ ไปดูภาพรวมของชั้นล่างกับการแต่งบ้านล็อตแรกก่อนนะครับ คอนเซ็ปต์คือ โล่งงงงงงงงงงงงงงไปอีกกกกกกกก!!!! ฮ่าๆๆๆๆ เตะบอลสบาย
ผมไม่ใส่โต๊ะกลางตรงห้องรับแขก เพราะต้องการให้บ้านดูกว้างๆ ครับ ไม่อยากให้มีอะไรมาขวางทางเดิน แต่มันก็ไม่มีที่วางของเลย ผมเลยไปเดินเลือกโต๊ะข้างมาแทนครับ เลือกตัวเล็กๆ
กิเลสใดๆ ก่อเกิดครับ ไปเห็นชุดโฮมเทียเตอร์ที่ถูกใจ ต้องเลือกแบบลำโพงชุดหลังเป็น wireless นะครับ จะได้ไม่ต้องต่อสายจากเครื่องเล่น
โยงมาที่ลำโพง ไม่ต้องเดินรางไฟ บ้านดูเรียบร้อยดีด้วยครับ
ส่วนของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ผมก็ไปเดินเลือกที่ Index ครับ มีให้เลือกเยอะดี แต่รูปภาพซื้อที่ถนนคนเดินประตูท่าแพครับ
มาดูสวนน้อยๆ กันบ้างครับ พ่อกับแม่ผมมาเที่ยวเชียงใหม่ช่วงปิดเทอมพอดี พอว่างจากการสอนเด็กๆ ก็มาอยู่กับลูกชายนี่แหละครับ แล้วพ่อผมชอบต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย เลยไปเลือกซื้อต้นไม้ที่ตลาดคำเที่ยงมาปลูกเองครับ
ปลูกแนวๆ นี้ทั้งสองข้างของตัวบ้านเลยครับ ตอนนี้ผมก็ไปซื้อต้นหูกระจงต้นใหญ่มาลงหน้าบ้าน ตอนที่มันผลัดใบนี่ร่วงสุดเลยครับ แต่ร่มรื่นดี
มาส่วนของเฟอร์นิเจอร์กันบ้าง โต๊ะกินข้าวสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือโคมไฟห้อยๆ ครับ ผมได้โคมของ Lamptitude มาครับ สวย เงา เรีย
โต๊ะกินข้าว ผมอยู่คนเดียวก็ไม่เคยนั่งหรอกครับ หาของมาวางซะเลย ให้จบๆ ไป ฮ่าๆๆๆๆ ซื้อหมอนมาวางไว้พิง ก็สวยดีอีกแบบ
โต๊ะทำงานเลือกสีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ เน้นที่โครงสร้างโล่งๆ ไม่ทึบตัน บ้านจะได้ไม่ดูคับแคบครับ เลือกเก้าอี้สีเหลืองให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ หาโคมไฟกับของเล็กๆ น้อยๆ มาวางครับ
แค่นี้ก็ครบแล้วครับ
ลืมบอกไปครับ ไอ่กล่องเหลืองๆ นี่เล่นเอาผมเหนื่อยอยู่เหมือนกัน แพงแบบไม่มีเหตุผลจริงๆ ครับ ฮ่าๆๆ High gloss อะไรซักอย่างนี้แหละ
ผมจะเจอของที่ถูกใจอยู่เรื่อยๆ ติดนาฬิกาไว้ด้านหลังตรงผนังเลยครับ
การแต่งบ้านเองไม่ยากครับ เพียงแต่เราต้องวางคอนเซ็ปต์ให้ดี อยากได้แนวไหน แบบไหน ในอินเตอร์เน็ตมีให้ดูเยอะมากๆ เลยครับ
เลือกแบบที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา เราชอบสีไหน ก็จัดเลยครับ ผมให้การแต่งบ้านเป็นงานอดิเรก ว่างก็นั่งเอาแบบต่างๆ มาเลือก นี่ดี โน่นไม่ดี ทยอยแต่งไปเรื่อยๆ ทีละเล็ก ทีละน้อย จากตอนแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ มันไม่มีอะไรเลย มีแค่ข้าวของจากหอเดิม และตลอดระยะ
เวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา เฟอร์นิเจอร์ทุกๆ ตัวก็ค่อยๆ มา ค่อยๆ มาเติมเต็มคำว่า บ้าน ให้กับผม
แต่งบ้านแล้วมีความสุข เพลินนนนนนน
ที่มา : CallMeSEE