Review : เมื่อผมเปลี่ยนเงิน 1 ล้าน เป็นคอนโดขนาด 82.5 ตรม. พร้อมตกแต่ง

กลับมาพบกับ ในบ้าน กันอีกเช่นเคย วันนี้จะพาไปชมรีวิวการตกแต่งคอนโดของคุณ สมาชิกหมายเลข 827862 เป็นคอนโดขนาด 82.5 ใช้งบประมาณไปราวๆ 1 ล้านบาท อยากจะรู้ว่าเป็นยังไง จะสวยงามน่าอยู่แค่ไหน ลองไปดูกันครับ

สวัสดีครับ วันนี้กลับมาเขียนอีกครั้งหลังจากหายไปนานมาก
วันนี้กลับมาพร้อมกับ ครอบครัวใหม่ครับ

มี * ตัวเล็ก 1 คน * กำลังอยู่ในท้องภรรยา ตัวไม่โตมากครับ 6 เดือน พร้อมรอคลอดแล้ว

จึงจำเป็นต้องขยับขยายที่อยู่ครับ ตอนแรกก็เหมือนคนปกติทั่วไปครับ ซื้อทาวเฮ้าส์ไว้ คิดว่าจะไปอยู่
พอวันนึงได้เข้าไปสัมผัส บรรยากาศ ทราบเลยครับ
ปัญหาของบ้านประเภททาวเฮ้าส์ คือ ที่จอดรถ เสียงดัง และ ถนนแคบ

แผนเลยไม่เป็นไปตามแผนครับ
ก็เลยมองหาสถานที่ ไม่เสียงดัง มีที่จอดรถเยอะ ถนนกว้างขวาง
และผมมีงบในการซื้อบ้านและตกแต่ง 1 ล้านบาท เท่านั้น (ตกแต่งครบ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า)

ด้วยความที่ในหมู่บ้านที่อยู่ ที่ผมใช้ทำมาหากินเป็นออฟพิศ (ออฟพิศผมอยู่ในคอนโด)
เป็นช่วงที่ บสส. มาเหมาซื้อห้องเก่าของคอนโดทั้งหมดไปและนำมาจำหน่าย ตามสภาพ

และเป็นช่วงโปรโมชั่น ฟรีโอน และ ฟรีค่าส่วนกลางเดิม (ปลอดหนี้)

ทำให้ผมตัดสินใจ อยากลองเปลี่ยนห้องภายในคอนโดเก่าๆ สภาพโทรมๆ ให้มีชีวิตอีกครั้ง

จากเงิน 1 ล้านบาท ก้อนแรก
ถูกแบ่งออกมาซื้อห้องชุด เป็นจำนวน 2 ห้อง
ในราคา ห้องละ 309,000 บาท ค่าประกันภัย ห้องละ 5,000 บาท

รวมเป็นเงินที่ใช้ในการซื้อห้อง 628,000 บาท
และคงเหลือเงินในการตกแต่ง 372,000 บาท

โดยวางแผนวาดฝัน ที่จะประยุกต์บ้านทาวเฮ้าส์ จากแนวตั้งเป็นแนวนอน

โดยทำการแบ่งพื้นที่ จากแปลนห้องเดิม แต่ * ไม่ลงตัวครับ Function ห้องไม่สนองความต้องการของผู้ใช้เลย

ต้องบอกก่อนคอนโดที่ซื้อเป็นลักษณะ การวางพื้นที่ค่อนข้างไม่ได้มาตราฐาน

สิ่งที่คิดในตอนนี้ คือ ทุบ รื้อ และ วาง พื้นที่การใช้งานใหม่ทั้งหมด

แปลนเดิมโครงการ (ห้องหมายเลข 9) ขนาด 41.5 ตรม. โดยประมาณ (ราคา ตรม.ละ 7,445 บาท)

แปลนเดิมโครงการ (ห้องหมายเลข 10) ขนาด 41 ตรม. โดยประมาณ (ราคา ตรม.ละ 7,535 บาท)

ใช้เวลายาวนานหน่อยนะครับ ผมอยากเขียนออกมาให้ค่อนข้างดีที่สุดนะครับ
อีกอย่างผมยังไม่ได้ถ่ายตอน สมบูรณ์ 100 %

ขออภัยหลายๆท่านที่อยากอ่าน ให้จบไวๆนะครับ

ผมอยากเก็บกระทู้นี้ไว้ให้

* เจ้าตัวน้อย *

ได้ดูในตอนโตนะครับ อยากให้เค้ารู้ว่าตั้งแต่เค้าอยู่ในท้อง
เราตั้งใจขนาดไหน ละเอียดขนาดไหน ที่จะทำบ้านให้เค้า
เพื่อให้เค้าโต ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด

ผมเพิ่งเข้าใจก็วันที่มีลูกนะครับ ว่าแม่รักเรามากแค่ไหน

และอีกอย่างผมอยากให้ทุกท่านได้รู้ขั้นตอนและรายละเอียดทุกอย่างของการออกแบบห้องสักหนึ่งห้อง
ว่ามันใช้รายละเอียดเยอะขนาดไหน มันยากขนาดไหน เหนื่อยขนาดไหน

เมื่อผมได้ Lay – out plan เดิมของคอนโด มาก็เริ่มทำการ แบ่งพื้นที่ครับ

โดยก่อนแบ่ง ให้แยกประเภท ส่วนที่เราต้องการใช้งานก่อน
โดยตัวผม แบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 โซน

ห้องนอนหลัก (Master Bedroom)
ห้องนอนคุณแม่ (Bedroom 2)
ห้องนั่งเล่น (Living area)
ห้องกินข้าว มีโซนโชว์รูปภาพ (Dinning area & Gallery)
ห้องครัว (Kitchen)
ห้องน้ำ 1 , ห้องนำ 2 (Toilet)
ห้องอเนกประสงค์ (Multipurpose Room)
พื้นที่ซักล้าง (Washer area)
พื้นที่ สำหรับครัวปูนแบบ Mini (Pantry)

เมื่อผมได้ส่วนต่างๆที่ต้องการครบ ผมจึงเริ่มนำความต้องการมาประยุกต์กับพื้นที่จริงใน Plan ที่เขียนขึ้นมา

โดยเริ่มจากการรวมแปลนจาก 2 ห้องเป็น 1 ห้อง

รวม 2 ห้องได้ ห้องขนาด 82.5 ตรม.

แบ่งส่วนต่างๆ ลงในพื้นที่ของ Plan

ส่วนไหนห้องไม่ได้ขนาดไม่พอสำหรับการใช้งานทิศทางลมไม่โปร่ง เชื่อมต่อกัน
* ทุบ ก่อ และ เพิ่มเติม *

จากการวิเคราะห์ พื้นที่การใช้งานของตัวผม พบว่า
ห้องนอน มีขนาดเล็กเกินไป ห้องครัวมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น
ห้องกินข้าว มีพื้นที่ในการใช้งานมาก และแสงสว่าง มากเกินความต้องการที่จะเป็นโซนแสดงภาพ
เนื่องจากห้องอนเกประสงค์ผมมีไว้เก็บของและให้น้องหมานอน (เยลโล่วและเยลลี่) จึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางประตูเพื่อสะดวกเมื่อหมาต้องเข้าห้องน้ำจึงกันผนังปิด และ เพิ่มประตู โดยคุณแม่ขอให้ห้องแม่และห้องน้องหมาสามารถมองเห็นกันแบบทะลุ เพื่อให้แอร์ไปถึงทั้งห้องหมาและห้องคุณแม่ และขอให้ทะลุแบบน้องหมาไม่สามารถเข้ามาห้องคุณแม่ได้ (โอ้ว)

จึงทำการปรับพื้นที่ ขยายส่วนต่างๆ เป็นตามแปลนนี้ครับ

ปรับขยายพื้นที่ เจาะประตู

หลายท่านอยากออกแบบบ้านด้วยตนเองติดปัญหาตรงพื้นที่ ว่าจะขยาย จะวางเฟอร์นิเจอร์อย่างไร
ผมจะอธิบายเป็นวิธีการแบบง่ายๆให้ลองอ่านนะครับ

1. เมื่อคุณได้แปลนบ้านมา ลองวัดพื้นที่จากของจริงและจำลองการนำเฟอร์นิเจอร์ลงไปวางในแปลน
โดยเฟอร์นิเจอร์ ส่วนมากจะมีขนาดค่อนข้างมาตราฐานในประเภทนั้นๆ

เช่นตู้เสื้อผ้าจะมีความลึก เฉลี่ย 60 – 65 cm.
ขนาดพวกนี้กรณีเราซื้อเฟอร์นิเจอร์ สำเร็จมาลง สามารถดูจากเว็บที่เราเลือกจากแบนด์ได้เลยครับ

เราเลือกเฟอร์ที่ต้องการและจดขนาดมาใส่ลงในแปลนครับ
โดยการวางจำเป็นต้องเผื่อพื้นที่สำหรับการเดิน การหมุนตัว และ ให้โปร่งเสมอ

หลักพื้นฐานสัดส่วนและการยศาสตร์ของคนกับการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ครับ

2. การทุบผนังก่อผนัง สมัยนี้มีวิธีการก่อผนังที่ง่ายขึ้น เี่สามารถกั้นผนังโดยใช้ โครง Cline กรุยิปซั่ม
หรือ อยากให้แข็งแรงอาจจะให้แผ่นไม้เทียม (วีว่าบอร์ด) ผนังโดยทั่วไปจะหนาประมาณ 10 cm.
เมื่อเรารู้ขนาดต่างๆ ก็จะสามารถวางลงในแปลนได้อย่างถูกต้องไม่คลาดเคลื่อน

วิธีการก่อผนังอิฐแบบโชว์แนว โชว์อิฐ

3.การเจาะประตู วิธีที่เราจะรู้ได้ว่าเราจะสามารถเจาะประตูได้ขนาดเท่าไหร่
ให้เราไปตามศูนย์การค้าที่จำหน่ายหรือร้านที่เราจะเลือกซื้อประตู
เดินเข้าไปขอขนาด Size ต่างๆที่ทางร้านมีมาเลยครับ จดมาหรืออาจจะขอโปรชัวมาเลยก็ได้
ทีนี้เราจะมีขนาดของสิ่งที่ต้องการแทบจะครบครันเลยทีเดียวครับ

4.ไม่มีความรู้เรื่องการออกแบบ สมัยนี้โลก Online ค่อนข้างสะดวกครับ หาข้อมูลได้ง่ายมาก
ลองมารูปแบบการวาง หรือ รูปที่เราสนใจมาแกะขนาด (รู้ได้จากเทียบเคียงจากข้อ 1)
และลองวางในแบบที่ใกล้เคียง ที่เราสนใจ

5.หาภาพที่เราชอบการออกแบบ (Inspiration Mood tone)
เริ่มจากหา Style ที่เราชอบ (ลองหาได้จาก pinterest)
หาสีที่เราชอบ และ สีที่เป็นสีเบรค มาช่วยให้ห้องมีความเด่นมากขึ้น
สุดท้ายเริ่มออกแบบเป็นภาพ 3D (ลองใช้โปรแกรม Sketch up)
โปนแกรมมีการแจกฟรีและมีสอนการใช้งาน แบบละเอียด
เป็นโปรแกรมใช้ง่ายครับ ลองเรียนรู้สัก 2-3 ชม. ก็ช่วยให้ เราสามารถลองออกแบบ ได้ดีเลย

ห้องนั่งเล่น (Living area)

ห้องครัว (Kitchen)

เมื่อพร้อมกับข้อมูลที่เตรียมมา ก็เริ่ม ออกแบบวาง Lay-out

ลองวางแปลนในพื้นที่ ปรับทุกอย่างตามที่ต้องการ

หลังจากผมได้ Plan ที่ลง Furniture แล้วก็เริ่มมองมา Inspiration ที่ต้องการ
โดยผมอยากเลือกสีที่ค่อนข้างเด่นชัดและดูต่าง เพราะงบประมาณที่จำกัด

จึงเริ่มมองหาลักษณะการออกแบบที่แปลกตา ผมจึงเลือก Style เหล่านี้มาใช้ออกแบบ

ลักษณะการใช้สี และ ความนิ่งแต่ดูมี Detail ของภาพ

มีสีสันที่ตัดกันให้ความรู้สึกน่าสนใจ

หลังจากผมได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ
ผมจึงทำการเลือกสี ของห้องต่างๆกำหนด สีตามประเภทห้องตามหลักจิตวิทยาสี

พอเราได้ Inspiration ครบถ้วน

เราก็มาเลือกสีกันครับ

ห้องนอนหลัก (Master Bedroom)

เลือกสี ขาว ชมพู
ห้องนี้ภรรยาขอสีชมพูครับ แต่ด้วยความเป็นห้องนอนจะชมพูหมดผมว่าท่าจะไม่ดีเลยมีให้ครับ แต่แค่ 10% อิอิ
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นขาว 911 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน A1000 (ด้าน)

ห้องนอนคุณแม่ (Bedroom 2)

ห้องคุณแม่ขอเป็นสีขาวๆ สว่างๆ แต่ขอมี Detail พวกไม้ไดคัท ระแนง
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นขาว 911 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน A1000 (ด้าน)

ห้องนั่งเล่น (Living area)

ห้องนี้ในตอนแรกผมคิดว่าจะใช้ ฟ้า – เขียว แต่ด้วยผนังของห้องเดิมไม่เรียบแต่ผนังล้ม มีผิวเปลือกส้มคอ่นข้างหนัก
ผมจึงเลือกสีใหม่โดยใช้ สีขาวเป็นหลัก แต่ตัดด้วยสีเด่นที่ผมชอบ คือ สีม่วง
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นขาว 911 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน A1000 (ด้าน)
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นม่วงสีผสม 8165 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน 8165 (ด้าน)

ห้องกินข้าว มีโซนโชว์รูปภาพ (Dinning area & Gallery)

ห้องนี้ผมเอาหลักจิตวิทยาสีมาใช้ สีที่ใช้แล้วทำให้มีผลต่อการทานอาหาร
เลยเลือกเหลืองมาใช้ แต่ผมอยากได้ Gallery ด้วย ในตอนแรกคิดว่าจะใช้สีดำ แต่กลัวว่ามันจะดูมืด
และดูทึบไป เลยลดจากำดมาเป็นน้ำตาลเทา
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นเหลือง 7941 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน 7941 (ด้าน)
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นเทาน้ำตาล 8221 (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน 8221 (ด้าน)

ห้องครัว (Kitchen)

ผมคิดว่าอยากจะใช้สีของห้องตัดต่อหรือห้องที่ค่อนข้างมืดๆ มีสีตัด
เลยลองเอาสีดำคู่กับชมพู
รหัสสีพ่น ใช้ TOA สีพ่นดำ Black (ด้าน)
รหัสสีทาผนัง ใช้ Lotte สีน้ำทาภายใน (ด้าน)

ห้องน้ำ 1 , ห้องนำ 2 (Toilet)

ห้องน้ำนี่ผมบอกได้เลยครับผมไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่เน้นกระเบื้องถูกและดูดี ๕๕
แต่ผมก็แบ่งสีไว้นะครับ เขียว – ขาว และ เทา – ขาว
ตัวนี้ผมพยายามหาอะไรมาเล่นเพิ่มแต่เซฟงบ ไปเดินดูเจอกระเบื้องราคาไม่แพง
แต่เป็นลาย Style moroccan อยากได้ความเรียบง่ายแต่ดูมีเนื้อหา
รหัสสีทาฝ้าเพดาน ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน A1000 (ด้าน)

ห้องอเนกประสงค์ (Multipurpose Room)

ห้องนี้เป็นห้องที่มองทะลุมาจากห้องคุณแม่ซึ่งบอกได้เลยว่าค่อนข้างออกแบบได้ลำบากครับ
เพราะผู้ใหญ่มักจะมองอะไรต่างจากเรา ผมเลยออกแบบ โดยครึ่งๆ กับคุณแม่
ผมเลยลองหาภาพมาให้คุณแม่ดู โดยผมเอาภาพ Mood จาก Santorini
รหัสสีทาผนัง ใช้ TOA สีน้ำทาภายใน A1000 (ด้าน)

แต่ก็ยังไม่จบครับผมว่าพื้นมันดูไม่เหมาะนำมาใช้ภาในบ้าน
ผมเลยลองมองหากระเบื้อง Moroccan มาร่วมวง
จึงเกิด Mood ขาว-น้ำเงิน และ กระเบื้องลาย Moroccan

พื้นที่ซักล้าง (Washer area) & พื้นที่ สำหรับครัวปูนแบบ Mini (Pantry)

ส่วนนี้ เน้นเรียบง่ายทำความสะอาดง่าย ประหยัดงบ
* ขาวเลยครับ *

เมื่อสีผนัง และสีโดยรวมแล้ว ต่อมาก็เป็นสีพื้น
ส่วนตัวผมอยากได้เป็นพื้นไม้ที่มีสี ที่สามารถ เข้าได้กับทุกสี

เลือกจากหลายๆแบนด์ดูครับ

สุดท้ายเลยได้เป็นสีนี้มาครับ ผมเลือกเป็นกระเบื้องยากเกรดนอก (แต่ราคาไม่แพง) – สีใกล้เคียงกับตัวที่อยากได้

หลังจากได้ สี และทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
เราก็มาเลือกเฟอร์นิเจอร์ลงกันครับ แบ่งตามห้องเลยครับ

ห้องนอนหลัก (Master Bedroom)

– Wardrobe (Built – in)

– Bed 6 Feet (ของ Sb รุ่น Zen) – ทำสีพ่นขาวทับ

– Night table (ของ Sb รุ่น Zen) – ทำสีพ่นขาวทับ

ห้องนอนคุณแม่ (Bedroom 2)

– Bed 5 Feet (ของ Sb รุ่น Muedon)

ห้องนั่งเล่น (Living area)

– Sofa 3 Seat L Shape – (สั่งทำร้านผ้าบุ)

– Coffee table – (สั่งทำ Lose Furniture)
– Book cabinet (Built – in)
– Tv cabinet (Built – in)
– Store cabinet (Built – in)

ห้องกินข้าว มีโซนโชว์รูปภาพ (Dinning area & Gallery)

เมื่อครบทุกอย่างก็เข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบครับ ระหว่างนี้ ผมพาไปดู ห้องที่ผมซื้อ หน้าตาอาคาร ภาพรวมภายนอกเป็นอย่างไร

ราคาแบบนี้เป็นแบบไหน มาลองดูกันครับ

ภาพทางเข้าจากถนน หลัก

ภาพภายนอกอาคาร

สิ่งอำนวยความสะดวกในคอนโด

– ร้านขายของชำ
– ลานออกกำลังกาย เครื่องเล่นจาก อบต.
– สนามเบตอง
– ลานจอดรถ
– ระบบ CCTV
– ระบบรักษาความปลอดภัย (รปภ.)
– ที่จอดรถยนตร์ และ จักรยานยนตร์
– โซนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
– โซนตู้กดน้ำหยอดเหรียญ

เข้ามาดูภายในอาคารกันบ้างครับ

สภาพห้องภายในคอนโด (ห้องขายตามสภาพ)

ภาพห้องส่วนต่างๆ ครับ (3D Perspective)

ห้องนอนหลัก (Master Bedroom)

ห้องนั่งเล่น (Living area)

ห้องกินข้าว มีโซนโชว์รูปภาพ (Dinning area & Gallery)

ห้องครัว (Kitchen)

ห้องน้ำ 1 , ห้องนำ 2 (Toilet)

ห้องอเนกประสงค์ (Multipurpose Room)

เนื่องจากหน้าห้องมีลักษณะเป็นทางเดินยาวๆ
ลมจึงถูกดูดจากหลังบ้านมายังหน้าบ้าน สามารถอยู่โดยมีลมพักตลอด แทบจะไม่ต้องเปิดพัดลมเลยครับ

ตัดมาที่ครัวครับ ตอนที่ผมออกแบบผมได้กำหนด
อุปกรณ์ที่ต้องการใช้ไว้นะครับ ประกอบด้วย

เตาอบ

เตาแก็ส

ซิงค์ล้างจาน

กระเบื้องห้องน้ำ (ขนาดและรูปแบบ)

ยี่ห้อ : Dynasty รุ่น โอลิเวีย – สีเขียว (133บาท/ตรม.)

ยี่ห้อ : Dynasty รุ่น โอลิเวีย – สีเทา (133 บาท/ตรม.)

ยี่ห้อ : Dynasty รุ่น แพรอท – สีขาว (173 บาท/ตรม.)

ยี่ห้อ : Dynasty รุ่น แบล็คโอลิเวอร์ (R) (184 บาท/ตรม.)

สุขภัณฑ์ (ขนาดและรูปแบบ)

โคมไฟ ดาวไลท์ และอุปกรณ์งานระบบต่างๆ (รูปแบบ)

หลุมฝ้า (ขนาดและรูปแบบ)

ลายซัฟวงกบและบัว (ขนาดและรูปแบบ)

มาถึงขั้นตอนการลงมือ ขั้นแรกเริ่มจากการรื้อถอน

– ประตู และวงกบเดิมทุกบาน
– พื้นกระเบื้องยาง
– สายไฟฟ้า สายงานระบบ
– รื้อฝ้าเพดานเดิม
– รื้อกระเบื้องห้องน้ำและสุขภัณฑ์
– รื้อหน้าต่าง และวงกบเดิมทุกบาน

ขั้นตอนต่อมาคือการทุบผนัง ในส่วนที่เราไม่ต้องการออกครับ

บางขั้นตอนผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ระเอียดนะครับดูภาพรวมพร้อมอธิบายนะครับ
หลังจากทุบรื้อถอน ได้ตามต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อมา

ก่อผนัง กั้นห้อง อุดรูประตู (ของผมใช้เป็นมวลเบาแล้วฉาบผนังครับ)

ขั้นตอนต่อมาคือการยิงฉากผ้าและโครง C-line
ฝ้ายิ่งสูงยิ่งดีนะครับ บ้านจะโปร่ง สำหรับผม 2.50 เมตร
ถือว่าก็พอแล้วครับเพราะสูงมาก แอร์ก็เปลืองไฟตามไปด้วย

เมื่อถึงขั้นตอนนี้เราจะสามารถให้ช่าง 3 ประเภท
เริ่มทำงานพร้อมกันได้แล้วประกอบด้วย

– ช่างไม้
– ช่างก่อสร้าง
– ช่างไฟ

โดยมีขึ้นตอนแต่ละประเภท ดังนี้

ช่างไม้ เริ่มทำการติดตั้งวงกบ และกรุผนังบางส่วนด้วยไม้
ช่างก่อสร้าง เริ่มทำแก้ไขระบบประปา ท่อน้ำดี และ ท่อน้ำเสีย ต่อด้วยปูกระเเบื้อง
ช่างไฟฟ้า เริ่มวางสายไฟ โดยของผมจะเป็นเดินร้อยท่อ โชวท่อ

โดยแปลนไฟจะเป็รลักษณะแบบนี้ครับ

ภาพการทำงาน

ช่วงที่ 2 ของการทำงาน

หลักจากช่างก่อสร้าง วางระบบประปาเสร็จก็เริ่มทำการปรับผนัง
ปรับ พื้น และเริ่มทำการปูกระเบื้อง

กระเบื้องห้องอเนกประสงค์ครับ

กระเบื้องห้องน้ำ ฝั่งทางห้องนอนคุณแม่ครับ

กระเบื้องห้องน้ำ ฝั่งทางห้องนอน * เจ้าตัวเล็ก * ครับ

กระเบื้องหลังบ้าน

ปูกระเบื้องเสร็จก่อนยาแนวก็ยิงแผ่นฝ้าและฉาบ โป๊ะกันก่อน – งานก่อสร้าง

ช่วงที่ฉาบฝ้า ช่างไฟก็ทำการเจาะดาวไลท์ และ เริ่มทำการเปิดใช้ระบบไฟฟ้า – งานไฟฟ้า
ระหว่างนั้นช่างมันก็เริ่มทำการ ทำเฟอร์นิเจอร์ ผมเน้นประยหยัดงบ จึงใช้ไม้ MDF