ราคาอาหารตามร้านค้าในปัจจุบันนั้นต่างมีการปรับราคาขึ้นสูง ทำให้หลายๆ บ้านเลือกที่จะทำอาหารทานเองในปริมาณที่มากๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่บางวันเมื่อเราทำอาหารกันบ่อยๆ แล้ว ก็อาจจะเริ่มคิดไม่ออกกันแล้วว่าจะทำเมนูอะไรใหม่ๆ กันดี
วันนี้ ในบ้าน จะพาเพื่อนๆ ไปเข้าครัวเพื่อพบกับ “12 เมนูอาหารจากแม่บ้านต่างแดน” เมนูอาหารฉบับมือใหม่ที่ใครๆ ก็ทำกันได้ เป็นเมนูที่สาธิตโดย Something about US & Eco-life แม่บ้านมือใหม่ที่ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา และต้องฝึกทำอาหารเอ อีกแนวทางให้เพื่อนๆ ได้นำไปลองทำทานกันดู เราไปชมทั้ง 12 เมนูกันเลยครับ
แชร์สูตรอาหารหลากหลายเมนู ฉบับแม่บ้านมือใหม่ ณ ต่างแดน
(โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 2673691)
สวัสดีค่ะ ตั้งกระทู้เกี่ยวกับการทำอาหารครั้งแรก ไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้ เพราะก่อนแต่งงานอยู่ที่ไทยเราไม่เคยทำอาหารจริงจังเลยค่ะ แต่พอแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่กับสามีที่ USA ต้องทำอาหารค่ะ ช่วงแรกๆที่ย้ายมา กะปริมาณอาหารที่ทำประมาณนึงแล้วก็อยู่ได้ไม่นานกินแป้บเดียวหมดแล้ว (อะไรกันทำตั้งนาน) เลยรู้ตัวว่าแบบนี้ไม่ work แน่นอนถ้าต้องทำบ่อยๆ เลยเปลี่ยนแผนมาทำอาหารทีเดียวเยอะๆกินไปเลยทั้งอาทิตย์ค่ะ
ช่วงแรกๆ ที่มาอยู่คิดไม่ออกว่าจะทำอาหารอะไรดี แต่ได้เพื่อนๆคนไทยในgroup fb ช่วยแนะนำเลยมี idea ค่ะ เราเลยเขียนบล๊อกเกี่ยวกับmeal plan ในแต่ละ week ของเรา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นค่ะ ใน page จะแบ่งเป็น แต่ละ week เลย แต่ใน post นี้จะคัดมาบางเมนูที่คิดว่าหลายๆคนน่าจะสนใจค่ะ
เป็นแม่บ้านมือใหม่ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
เมนูทั้งหมดคือ
1. ราดหน้าหมูนุ่มใส่กุ้ง
2. ยำไข่ต้มใส่กุ้ง
3. สปาเกตตี้มะเขือเทศหมูสับไส้กรอก
4. สปาเกตตีคาโบนารา สูตรดั้งเดิม ไม่ใส่ครีม
5. มักกะโรนี อูกราแตง
6. ผักโขมอบชีสเบคอนกรอบ
7. ซี่โครงหมูอบตะไคร้
8. คะน้าฮ่องกงราดซอสเห็ด
9. ผัดถั่วงอกเต้าหู้
10. แกงจืดกะหลำ่ปลีห่อหมูสับ
11. กระเพาะปลาผัดแห้ง
12. คั่วกลิ้งกระดูกหมู
อันนี้คือ Page ของเรา จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ใช้ชีวิตที่ USA และ การใช้ชีวิตแบบ eco-friendly ด้วยค่ะ เพราะส่วนตัวพยายามทำมานานแล้วตั้งแต่อยู่ที่ไทย พอมีโอกาสทำpage เลยคิดว่าคงดีและเป็นประโยชน์ถ้า แชร์ life style ด้านนี้ไปด้วยค่ะ
FB: https://www.facebook.com/pg/SomethingAboutUS.A หรือ search ว่า Something about US & Eco-life ค่ะ
ตั้งกระทู้ทำอาหารครั้งแรก ผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะคะ
1. ราดหน้าหมูนุ่มใส่กุ้ง
วัตถุดิบ
– Angel hair (เพราะไปตอนแรกๆ หาเส้นไม่ได้เลยใช้เส้นนี้ ซึ่งอร่อยมาก ชอบมากกก ชอบมากกว่าเส้นสปาเกตตีอีก)
– เนื้อหมู 150 กรัม
– กุ้ง
– ผักบรอคโคลี
– แครอท
– เห็ด ใช้เห็ด baby portobella เพราะหาซื้อได้จาก Walmart ค่ะ ซึ่งใครอยากใส่เห็ดแบบไหน ประยุกต์ได้หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
– แป้ง 2 ช้อนโต๊ะ เราหาแป้งข้าวโพดไม่ได้ เลยใช้แป้งอเนกประสงค์แทน ซึ่งใช้ได้ปกติเลยค่ะ
– กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันพืช
– ซีอิ้วขาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
– ซอสเต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
– พริกไทยขาวป่น
ขั้นตอนการทำ
1. หมักหมูให้นุ่มค่ะ โดยใช้ไข่ไก่และนมสด และซีอิ้วขาวค่ะ คลุกให้ทั่วแล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 30 นาที-1 ชั่วโมงค่ะ
2. เราใช้ เส้น Angel hair แทนเส้นใหญ่ ก็เอาเส้นไปต้มใส่เกลือเล็กน้อย ให้เส้นพอนิ่มๆ แล้วเอามาพักไว้
3. คลุกangel hair กับน้ำมันพืชเพื่อ ให้เส้นไม่ติดกัน แล้วพักไว้
4. ผัดผัก โดยใส่น้ำมันในกระทะ ใส่กระเทียม ซอสเต้าเจี้ยว ผักบรอคโคลี แครอท ตามด้วยน้ำเพื่อให้ผักนิ่ม
5. ผัดซักพักค่อยตามด้วยเห็ด ที่ใส่เห็ดตามไปทีหลังเพราะเห็ดที่ใช้จะหดง่ายเลยไม่ควรผัดนานค่ะ ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ชิมรสตามชอบ แล้วพักไว้
6. ตั้งกระทะ เอากุ้งลงไปผัดให้พอสุก อย่าผัดนานเพราะหดง่ายเหมือนกัน แล้วเอามาพักไว้
7. ตั้งน้ำในหม้อ ให้เดือดแล้วเติมเนื้อหมูหมักลงไป
8. ละลายแป้งกับน้ำเปล่า แล้วค่อยๆเติมแป้งลงไปทีละนิดไม่ให้แป้งจับเป็นก้อน ใส่พอให้น้ำราดหน้าเหนียว
9. ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ปรุงตามชอบ แล้วปิดเตา
10. ตักเส้น ใส่ผัก และกุ้ง ราดด้วยน้ำราดหน้าหมูหมัก โรยด้วยพริกไทยเป็นอันเสร็จค่ะ
Credit: https://th.openrice.com/th/recipe/ราดหน้าหมู/2612
2. ยำไข่ต้มใส่กุ้ง
วัตถุดิบ
– ไข่เป็ด หรือ ไข่ไก่ 4 ฟอง ( แต่ตามสไตล์ เราทำมากกว่านั้น อยู่และ)
– กุ้ง ตามชอบ
– หอมใหญ่ซอยบาง ½ หัว
– พริกขี้หนูซอย ปริมาณตามชอบ
– น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
– มะเขือเทศหั่นบาง 1 ลูก
– ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน 1 ต้น >> ตอนทำเราไม่ได้ซื้อมาเลยไม่ได้ใส่ค่ะ แต่ถ้าใส่จะช่วยในเรื่องกลิ่นและสีสันให้ดูน่ากินค่ะ
วิธีทำยำไข่ต้ม
1. ผสมพริก น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้
2. ต้มไข่ เราชอบกินไข่ยางมะตูมมาก แต่จะไม่ค่อยเหมาะกับเมนูยำเพราะต้องคลุก เลยอาจทำให้เละ อาจจะต้องเก็บไข่ยางมะตูมไว้กินกับราเมงดีกว่า เพราะฉะนั้น ต้มไข่ควรจะซักประมาณ 6-8 นาที ขึ้นอยู่กัยขนาดของไข่
ก่อนต้มควรเอาไข่มาวางไว้ข้างนอกตู้เย็นก่อนซักหน่อยให้ไข่อยู่ในอุณหภูมิห้อง และล้างเปลือกให้สะอาดเพราะเราต้องแกะเปลือก ตอนต้มเสร็จ อาจมีปะปนกัน
ใส่ไข่ตอนนำ้เดือดแล้ว เท่านั้น แล้วจับเวลา
เคล็ดลับที่เราอ่านมาแต่ไม่ได้ใช้คือ ใส่น้ำส้มสายชู หรือ น้ำมะนาวตอนต้มจะช่วยกันเปลือกไข่ร้าวได้
3. หลังต้มเสร็จตามเวลา เอามาใส่ในน้ำเย็น วิธีนี้พอทำแล้วสังเกตุได้ว่า เปลือกไข่ปอกง่ายขึ้นกว่าไม่แช่น้ำเย็น
ไปเจอวิธีปอกเปลือกไข่ต้มที่ประหยัดเวลามาคือ หลังจากแช่น้ำเย็นแล้ว เทน้ำ ออกให้หมด แล้วเขย่าไข่ให้กระทบกันเอง แล้วเปลือกไข่จะหลุดออกมาสวยงามไม่ต้องเสียเวลาปอกเลย อันนี้ยังไม่เคยลองแต่มีคนลองแล้วบอกว่า ได้ผลดี ยังไงเพื่อนๆลองดูก็ได้นะคะ ได้ผลยังไงบอกกันด้วยนะ
4. ต้มกุ้งให้พอสุกค่ะ อย่านานเกินไปเดี๋ยวหด
5. ใส่ไข่ต้ม กุ้ง หอมใหญ่ มะเขือเทศ และขึ้นฉ่ายซอยลงในอ่างผสม ใส่น้ำยำ เคล้าผสมอย่างเบามือ ตักใส่จาน จบ ง่าย และอร่อยด้วย
ถ้าเก็บไว้กินหลายๆมื้อ แยกส่วนผสมจากน้ำยำก็จะดีค่ะ แต่ตอนเราทำอาจจะลืมไปเลยใส่ไปหมดเลยแล้วเก็บไว้กินหลายมือจะบอกว่าก็ยังอร่อยอยู่ไม่เซ็งนะคะ
เราเอาสูตรมาจาก web นี้ https://cooking.kapook.com/view186103.html มีเมนูไข่อีกเยอะเลยลองดูได้ค่ะ
3. สปาเกตตี้มะเขือเทศหมูสับไส้กรอก
วัตถุดิบ
– เส้นสปาเกตตี้ต้มสุก 2 ถ้วยตวง (แต่ทุกคนคงเห็นแล้วว่าเราใช้มากว่านั้น เหอๆ)
– เนื้อหมูสับ 1 ถ้วยตวง
– มะเขือเทศแกะเม็ดออกแล้วสับ 1 ลูกใหญ่ประมาณ 100 กรัม (เราไม่ได้เอาเม็ดออกและ อย่าหั่นละเอียดมากจนกลายเป็นน้ำนะ สาเราใช้ที่ปั่นมือ ละเอียดเกิน)
– หอมใหญ่หั่น4เหลี่ยมลูกเต๋า ½ หัวเล็ก ¼ ถ้วยตวง
– ซอสมะเขือเทศ ครึ่งถ้วยตวง อ้อ ตรงนี้ตอนที่สา รู้ว่าจะใช้ ซอสมะเขือเทศ แล้วช้อกอีกแล้ว บอกว่ากินไม่ได้หรอก ให้ใช้ซอสสปาเกตตี้ เราเลยใช่ ซอสสปาเกตตี้แทนค่ะ ใช้หมดกระปุกเลย โพสรูปซอสไว้ให้ด้วยจ้า
– พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
– ใบโหระพา สับ 5 ใบ >> เราใช้พริกหยวกค่ะ
– เนยสด 3 ช้อนโต๊ะ
– ไส้กรอก
.
วิธีทำ
1. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ แล้วเอาเส้นลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมด หรี่ไฟอ่อน ในสูตรบอกให้ต้ม พร้อมปิดฝา ประมาณ 20 นาที แต่เราไม่ได้ทำตามเลย เปิดฝาตลอด และต้มไม่ถึง 20 นาที แค่ดูว่า เส้นนิ่มแล้วรึยัง
เพราะสาเคย comment ว่าต้มสุกเกินไปด้วยค่ะ การเชคว่าเส้นสุก ในสูตรบอกว่า ใ้ห้ลองหักดูวาข้างในเป็นสีเสมอกันมั้ย หากมีขาวๆ แสดงว่ายังไม่สุก แต่เราไม่ได้ทำนะ เพื่อนๆสามารถลองทำดูได้ค่ะ หลังจากนั้นนำเส้นที่ต้มสุกแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำ ออกนำไปคลุกกับน้ำมันพีชแล้วพักไว้
2. ตั้งกระทะให้ร้อน พร้อมใส่เนยสดและหัวหอมใหญ่ ผัดจนหอมสุก จะบอกว่าขั้นตอนนี้ หอมมาากกกกกก
3. นำหมูสับกับไส้กรอกลงไปผัดพอสุก แล้ว ใส่มะเขือเทศสับ พริกหยวก ซอสสปาเกตตี้ ( หรือในสูตรใช้ ซอสมะเขือเทศ) พริกไทย ผัดให้เข้ากัน
4. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือ ผัดให้เข้ากันชิมรส
บางสูตรบอกใส่ ซอสหอย กับซีอิ้วขาวด้วย ต้องลองชิมดูค่ะ ว่าอยากใส่มั้ย เราไม่ได้ใส่
5.ใส่ใบโหระพาสับผัดให้เข้ากันจนสุก (เราไม่ได้ใส่ค่ะ)
6.นำสปาเกตตี้ใส่จาน ตักซอสมะเขือเทศราด ตกแต่งด้วยใบโหระพาค่ะ (เหมือนเดิมที่ไม่ได้ใส่) ถ้าใส่คงได้กลิ่นหอมมากขึ้นค่ะ
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=StxCymY_24o
.
4. สปาเกตตีคาโบนารา
สูตรที่ให้ไปมาจาก สูตรดั้งเดิมซึ่งเป็นสูตรสำหรับทาน 2 คน เราเอามาปรับใช้กับของเราเพราะเราทำปริมาณเยอะ เลยจะไม่ได้ใช้ปริมาณตามที่สูตรบอกแต่จะ double เข้าไปอีกหลายเท่าค่ะ
วัตถุดิบ
– Pancetta เบคอนรมควันอย่างดี ปริมาณตามชอบ แต่เราไม่มีค่ะ เลยใช้ bacon ธรรมดา ก็ใช้ได้ค่ะ
– แฮม เราใส่แฮมด้วย แต่สูตรดั้งเดิมไม่มีนะคะ
– ไข่ไก่ 3 ฟอง ใช้ไข่ได้ทั้งฟอง 1 ฟอง และใช้เฉพาะไข่แดง 2 ฟอง
– พาร์เมซานชีสประมาณ 40 กรัม สำหรับทำซอส และประมาณ20 กรัมใช้โรยหน้าสปาเกตตี้
– น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ เพื่อความhealthy แต่เราใช้น้ำมันที่มีอยู่ค่ะ
– เส้นสปาเกตตี้ 100 กรัม
– เกลือ สำหรับต้มสปาเกตตี
– พริกไทย
– กระเทียม 2 กลีบ
– หัวหอม อันนี้ไม่มีในสูตร แต่เราใส่ค่ะ
– เห็ด อันนี้ก็ไม่มีในสูตร แต่เราใส่ค่ะเช่นกันค่ะ
วิธีทำ
1. นำน้ำใส่หม้อ ต้มน้ำสำหรับเส้นสปาเก็ตตี้
2. ระหว่างรอ นำ้เดือดก็มาทำซอสคาโบนาราค่ะ ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง และ ไข่แดง 2 ฟอง ใส่ลงในชาม เติมเกลือเล็กน้อย ตามด้วย พาร์เมซานชีส 40 กรัม ตีทุกอย่างให้เข้ากัน เสร็จเรียบร้อย พักไว้ก่อนคะ
3.เติมเกลือลงไปในน้ำเดือดพอประมาณ ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไปต้ม ตั้งเวลาตามคำแนะนำข้างกล่องสปาเก็ตตี้ เราแค่ check ว่าเส้นนิ่มก็โอเคแล้วค่ะ
4. ระหว่างรอก็มาผัดเครื่องค่ะ ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันมะกอก กระเทียม จากนั้น ใส่เบคอนและ แฮม เห็ด หัวหอม ลงไปผัด
5. เมื่อสปาเก็ตตี้สุกแล้ว ยกกระทะเบคอนออกจากไฟ และตักเส้นสปาเก็ตตี้ ใส่ลงไปในกระทะเบคอน (ไม่เทน้ำต้มสปาเก็ตตี้ทิ้งนะคะ) ในขั้นตอนนี้เราไม่ได้ผัดเส้นค่ะ เพราะจะเก็บไว้กินหลายมือเลยแยกเส้นค่ะ
6. ใส่ซอสคาโบนาร่าที่เตรียมไว้ และใส่น้ำต้มสปาเก็ตตี้ลงไปในกระทะเบคอนพอประมาณ คนทุกอย่างให้เข้ากันก็จะได้ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่อร่อยมากๆ รับประทานแล้วคะ
7. ตักใส่จานโรยหน้าด้วยชีสพาร์เมซาน
Credit : https://pantip.com/topic/35835449 และ Youtube ของคุณ Mr. Gennaro Contaldo ค่ะ
5. มักกะโรนี อูกราแตง
ขอย้ำอีกรอบค่ะ ว่าปริมาณเอามาจากสูตรที่หามาแต่ที่เราใช้จริงเรามาปรับเปลี่ยนค่ะ เพราะเราทำเยอะ รูปที่เห็นจึงเทียบกับปริมาณในสูตรไม่ได้นะคะ
วัตถุดิบ
– เส้นมักกะโรนีต้มสุก 50 กรัม
– แฮมหั่นเต๋า 100 กรัม
– บรอคโคลีหั่นชิ้นเล็ก ½ ถ้วย
– เห็ดแชมปิญองหั่นบาง 1/3 ถ้วย แต่เราใช้เห็ด baby portobello ค่ะ
– พาร์มีซานชีสขูด 1 ½ ถ้วย
– มอซซาเรลล่าชีสขูด 1 ถ้วย
– ออริกาโน 1 ช้อนชา (ตอนทำยังไม่ได้ซื้อมาเลยยังไม่ใส่ค่ะ)
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
– ไส้กรอก (เราใส่เพิ่มไปด้วยค่ะ)
– แครอทหั่นชิ้นเล็ก (อันนี้เราก็ใส่เพิ่มค่ะ)
– ส่วนผสมเบซาเมลซอส (ซอสที่ใช้ในการราด มักกะโรนีกราแตง)
– เนยสดชนิดจืด 2 ช้อนโต๊ะ
– แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
– นมสดรสจืด ½-1 ถ้วย
– เบย์ลีฟ 1 ใบ (ไม่มีเลยไม่ใส่ค่ะ)
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
1. ต้ังเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ก่อนค่ะ
2. ลวกบรอคโคลี แฮม ไส้กรอก แครอท เห็ดแชมปิญองในน้ำเดือดให้สุกตักขึ้นพักให้สะเด็ดนำ้
3. ใส่เกลือ พริกไทย ออรกาโน เคล้าส่วนผสมให้เข้ากันเตรียมไว้
4. ผัดเนยกับแป้ง ในหม้ออีกใบ โดยใช้ไฟกลางจนเข้ากัน ใส่เบย์ลีฟ ค่อยๆเติมนมสดลงทีละน้อย พร้อมผัดเร็วๆ จนกระทั่งหมด ปรุงรสด้วย เกลือและพริกไทย
5. นำซอสไปคลุกกับส่วนผสมในข้อ3 และมักกะโรนี จนเข้ากัน ตักใส่ภาชนะสำหรับอบ โรยมอซซาเรลลาและ พาร์มีซานชีส
6. นำเข้าอบประมาณ 7 นาทีหรือกระทั่งเหลืองสวย เสิร์ฟขระร้อนๆ ของเราอบมาแล้วตอนแรก ยังรู้สึกไม่เหลืองพอ ชีสน้อยไปเลยอบเพิ่มต่อด้วยค่ะ
ที่มาของสูตร https://food.mthai.com/food-recipe/82054.html
6. ผักโขมอบชีสเบคอนกรอบ
Note: เราไม่ได้ใช้ปริมาณตามสูตรเป๊ะๆ เนื่องจากทำเยอะค่าจึงเพิ่มตามสัดส่วนเอา
วัตถุดิบ
– Cheese 4 แผ่น
– เบคอนชิ้นยาว
– ผักโขมลวกสุก 1/2 ถ้วย
– หอมใหญ่สับละเอียด 1/4 ถ้วย
– เบคอนหั่นเต๋าเล็กๆหรือแฮม 1/3 ถ้วย ( อันนี้เราใช้แฮมอย่างเดียวค่ะ)
– เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยขาวป่น
– นมสด 1/3 ถ้วย
วิธีทำ
1. นำเนยเค็มเจียวกับหอมใหญ่ (ตอนนี้แบบว่าหอมแบบสุดๆเลยยยย) ตามด้วยเบคอนลงผัด กระทั่งสุก ใส่ผักโขมลงไปผัด ปรุงรสด้วยพริกไทย เติมนมสดลงไปผัดให้เข้ากันจนงวด ปิดไฟ
2. นำเบคอนมาวางเรียงซ้อนกันเป็นแผงยาว วางชีสโปะลงไปประมาณ 4 แผ่น จากนั้นนำเครื่องที่ผัดไว้มาใส่ด้านบน และทำการม้วน
3. นำเข้าเตาอบ อุณภูมิ 180 องศา นาน 20-25 นาที หรือ จนเบคอนเหลืองกรอบตามชอบ
Credit: https://pantip.com/topic/33542524 กระทู้นี้รวมหลายเมนูเบคินชีสเยอะมากกก
7. ซี่โครงหมูอบตะไคร้
ส่วนผสม
– ซี่โครงหมู หั่นป็นชิ้นประมาณ 10 CM 1 ถ้วย
– กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
– พริกไทยเม็ด บุให้พอแตก 1 ช้อนโต๊ะ ( เราไม่มีเลยใช้พริกไทยปกติค่ะ)
– น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
– ผงรสดี 1 ช้อนชา (อันนี้เราไม่ได้ใช้ค่ะ)
– เกลือ 1 ช้อนชา
– ตะไคร้ บด 3 ช้อนโต้ะ
– น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
– น้ำตาล 2 ช้อนโต้ะ
– น้ำปลา 5 ช้อนโต้ะ
– พริกแห้งบด 1 ช้อนโต้ะ (เราไม่มีเลยใช้พริกสด)
– น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำซี่โครงหมูอบตะไคร้
1. นำ ซี่โครงหมูหมัก กับ กระเทียม พริกไทย น้ำมันหอย ผงรสดี(เราไม่ได้ใส่) เกลือ ตะไคร้ และ น้ำตาล
2. นำซี่โครงที่หมักไปอบในความร้อน ปานกลาง ประมาณ 5 นาที สังเกตุจากสีของซี่โครงหมู (เราอบไปจริงๆประมาณ 30 นาที)
3. ทำน้ำจิ้ม โดย ผสม น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และ พริกแห้งบด(เราใช้พริกสด) ผสมกัน ให้ออก หวาน เค็ม และ เปรี้ยว (อันนี้เรา love มากกก)
4. เสริฟ ซี่โครงหมูอบ พร้อมกับน้ำจิ้ม
.
.
8. คะน้าฮ่องกงราดซอสเห็ด
ส่วนผสม
– คะน้าฮ่องกง 8 ต้น
– แครอท 1/4 ลูก
– น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
– ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ (เราใส่เห็ดหอมสดแทน)
– ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
– แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ
– โปรตีนเกษตรทอด(ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ
1. นำคะน้า และแครอทมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นแครอทชิ้นพอประมาณ เตรียมพักไว้
2. หม้อใส่นำเปล่าต้มให้เดือดใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยพอน้ำเดือดๆก็ให้ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไปต้มจนผักสุก แล้วตักขึ้นล้างด้วยน้ำเย็นหรือ น๊อคน้ำแข็ง(ผักจะนุ่มกรอบและหวานมาก)แล้วจัดใส่จานเตรียมพักไว้
3. ตั้งกะทะใส่น้ำเปล่าลงไปพอน้ำเดือดใส่เห็ด และเครื่องปรุงรสในน้ำซอสให้เข้ากันชิมรสชาติ(ให้มีรสเค็มนำ)เมื่อได้รสขาติที่ชอบ เทแป้งที่ละลายน้ำแล้วคนให้น้ำซอสมีความเหนียวข้นเล็กน้อย
4. นำน้ำซอสราดใส่ผักที่เตรียมไว้โรยหน้าด้วยโปรตีนกรอบ(เราไม่ได้โรย) เสร็จเรียบร้อยพร้อมทาน
.
9. ผัดถั่วงอกเต้าหู้
ส่วนผสม
– น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
– กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
– เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
– น้ำสต๊อกไก่ 1/4 ถ้วย (เราใช้น้ำเปล่าแทนค่ะ)
– ถั่วงอก 200 กรัม
– เต้าหู้เหลือง (ทอด) 1/2 ก้อน
– ต้นหอม
วิธีทำ
1.นำน้ำมันใส่กระทะผัดด้วยกระเทียมสับ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย เต้าเจี้ยว น้ำตาลทราย และน้ำสต๊อกไก่ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
2.ใส่ถั่วงอกลงไป ตามด้วยเต้าหู้เหลือง ผัดให้จนถั่วงอกสุก แล้วใส่ต้นหอมลงไปผัดเป็นอย่างสุด เสร็จแล้วตักขึ้นใส่จานเสิร์ฟ
Credit: https://food.mthai.com/food-recipe/120403.html
.
.
10. แกงจืดกะหลำ่ปลีห่อหมูสับ
ส่วนผสม
– กะหล่ำปลีใหญ่ 1หัว
– เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 8 ดอก
– หมูบด 1 ถ้วยตวง (250 กรัม)
– แครอทหั่นแว่น 1 ถ้วยตวง
– รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (เราไม่มีรากผักชี และใช้พริกไทยป่นเอาค่ะ)
– คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา (เราไม่ได้ใช้)
– คนอร์ซุปหมูก้อน 2 ก้อน
– น้ำเปล่า1 ½ ลิตร
– ต้นหอมทั้งต้นประมาณ 4 ต้น
– กระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชีซอยซอยสำหรับโรยหน้าตามชอบ
วิธีทำ
1. นำเห็ดหอมมาสับหยาบ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะแครอทสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ พักไว้
2. นำหมูบด รากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกไว้ แครอท เห็ดหอมสับ มาผสมกับคนอร์อร่อยชัวร์ ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้
3. กะหล่ำปลีแกะออกเป็นใบๆ แล้วนำไปลวกในน้ำเดือดที่ใส่เกลือเล็กน้อย พักไว้ จากนั้นนำต้นหอมไปลวกในน้ำเดือด พักไว้ สำหรับมัดกะหล่ำปลี
4. นำกะหล่ำปลีที่ลวกไว้มาห่อหมูบด ปรุงรสที่เตรียมไว้แล้วมัดด้วยต้นหอมลวก ห่อจนหมูหมด
5. ตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟกลาง พอเดือดใส่คนอร์ซุปหมูก้อนลงไป คนให้ละลาย ใส่เห็ดหอมและแครอทลงไปต้มสักครู่ ใส่กะหล่ำปลีที่ห่อหมูไว้
6.ถ้ามีฟองให้คอยช้อนฟองออกน้ำซุปจะได้ใส ต้มจนส่วนผสมทั้งหมดสุกดี
7.ตักใส่ชาม โรยด้วยกระเทียมเจียวพร้อมเสิร์ฟ
Credit: https://www.knorr.com/th/recipe-ideas/แกงจืดกะหล่ำปลีห่อหมูสับ
.
11. กระเพาะปลาผัดแห้ง
ส่วนผสม
– กระเพาะปลา
– กุ้ง ( เราใส่ไก่แทน)
– ไข่
– ถั่วงอก
– เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น
– ต้นหอมซอย
– กระเทียมสับ
– ขิงบุบ (เราไม่ได้ซื้อเลยไม่ได้ใส่ค่ะ)
– น้ำมันหอย
– ซีอิ๊วขาว
– น้ำตาล
– น้ำส้มสายชู
– น้ำมัน
.
วิธีทำ
1. นำกระเพาะปลามาต้มด้วยขิงบุบ น้ำส้มสายชู ประมาณ2ครั้ง ช่วยลดกลิ่นและคราบน้ำมันออก (เราต้มกับน้ำส้มสายชูแค่ครั้งเดียวเพราะกระเพาะปลามาแบบแห้งอยู่แล้ว และดมแล้วก็ไม่มีกลิ่นคาวค่ะ) หั่นเป็นชิ้นพอคำเตรียมไว้
สำหรับเราจากที่เห็นในรูปเราหั่นเป็นวงๆ ซึ่งเราคิดว่าใหญ่เกินไปเวลากินแล้วจะรู้สึกเหนียวเคี้ยวนานแต่ถ้าหั่นครึ่งนึงจะดีกว่าไม่เหนียวและเคี้ยวง่ายค่ะ
2.ผสมน้ำมันหอย/ซีอิ๊วขาว/น้ำตาล ให้เข้ากันเตรียมไว้
3.เจียวกระเทียมให้หอม ใส่กุ้ง(ไก่) ลงไปผัด ใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้เข้ากัน ตอกไข่ลงไปเกลี่ยไข่ให้แตก ใส่กระเพาะปลา และปรุงรสด้วยซอสที่ผสมเตรียมไว้(ข้อ2) ผัดให้เข้ากัน
Credit: https://pantip.com/topic/36084549
.
.
12. คั่วกลิ้งกระดูกหมู
เมนูที่เราปลื้มปริ่มมากที่สุด เพราะรสชาดพริกแกงที่ตำเองอร่อยมาก อิอิ
วัตถุดิบ
– ซี่โครงหมู 1 กิโลกรัม
– พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง 7 เม็ด (เราใช้พริกขี้หนูค่ะ)
– ใบมะกรูดซอย 10 ใบ
– กระเทียม 1 หัว
– พริกไทยสด 30 กรัม (เราไม่มีค่ะ)
– ขมิ้นหั่นแว่น 30 กรัม
– พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ (เราใช้พริกไทยป่นค่ะ)
– ข่าหั่นแว่น 30 กรัม
– ตะไคร้ซอย 3 หัว
– เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
– กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
– ผิวมะกรูด ½ ช้อนโต๊ะ (เราไม่มีเลยไม่ใส่ค่ะ)
– น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
.
วิธีทำ
1.ทำพริกแกง ใส่พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง(เราใช้พริกขี้หนู)ลงไปในครก ตามด้วยกระเทียม ขมิ้นหั่นแว่น พริกไทยเม็ด(ใช้พริกไทยป่น) ข่าหั่นแว่น ตะไคร้ซอย เกลือสมุทร กะปิ และผิวมะกรูด(เราไม่มีเลยใช้ใบมะกรูดสับแทนค่ะ) โขลกให้ละเอียด
2.คั่ว นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันลงไป และรอจนร้อน ใส่ซี่โครงหมูลงไปผัดจนแห้ง (ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าซี่โครงสุกยากหน่อยต้องรอให้สุกจริงๆ ใช้ไฟอ่อน-กลางให้ข้างในสุกด้วยนะคะ)
3.ใส่พริกแกงที่ทำไว้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน (จะบอกว่า ตรงนี้เราชิมแล้วไม่ปรุงอะไรเพิ่มเลยคืออร่อยมาก)
4.ใส่ใบมะกรูดซอย และพริกไทยเม็ดลงไป ผัดให้เข้ากัน และยกออกจากเตา
5.ตักใส่จานที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟจ้า
Credit: https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/recipefood/1416915
.
.
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 2673691