“Wild Coffee & Bistro” คาเฟ่กลางป่าใหญ่ ร่มรื่นและอิงแอบแนบชิดกับเชิงดอยสุเทพ

เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงคาเฟ่และร้านกาแฟจำนวนมาก วันนี้ ในบ้าน จึงจะพาเพื่อน ๆ ไปทัวร์ชม Wild Coffee & Bistro ซึ่งร้านตั้งอยู่ที่ตำบลช่างเคี่ยน ติดกับเชิงดอยสุเทพกันแบบชิดกันเลยทีเดียว ใครที่ชื่นชอบการจิบเครื่องดื่มภายในบรรยากาศธรรมชาติต้องห้ามพลาด

Wild Coffee & Bistro เป็นคาเฟ่และร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นจีน-ไทย-ยุโรป โดยมีธีมการออกแบบคือ “ป่าในเมือง” เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ร้าน เมื่อย่างก้าวเข้ามาก็จะพบกับบริเวณทางเข้าที่ตกแต่งไปชมพืชเมืองร้อนตระกูลกระบองเพชรและปาล์มที่สร้างความตื่นตาตะแต่หน้าร้าน

ซุ้มประตูแบบล้านนาที่โดดเด่นด้วยหลังคาแบบสองชั้น มุงด้วยแผ่นกระเบื้องโบราณ ตัวเสาของซุ้มมีลำต้นขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยรูปปั้นสิงห์ศิลปะล้านนา

ด้านข้างของซุ้มประตูมีสวนหย่อมอีกแห่ง ซึ่งตกแต่งในธีมแบบยุโรปคลาสสิกด้วยกระถางทรงสูงแบบยุโรป รูปปั้นคิวปวิด รวมไปถึงน้ำพุแบบคลาสสิก

เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาเราจะพบกับลานชั้นในที่เป็นพื้นที่ให้ลูกค้าได้นั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งตรงนี้เราจะสังเกตเห้นป้ายชื่อร้านที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน

ถัดจากลานเมื่อสักครู่ ทาเดินจะพาเราเข้ามายังงพื้นที่โถงรับรองอีกแห่งที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรป โดยมีซุดโซฟาผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินตั้งเด่นอยู่กลางห้อง

เมื่อเข้ามาสู่บริเวณห้องโถงหลักกของร้าน เราจะพบกับรูปแบบการออกแบบตกแต่งที่ผสานดีไซน์แบบคลาสสิกและอินดัสเทรียลในบรรยากาศที่อบอุ่นและมีเสน่ห์

บริเวณส่วนต้อนรับ โดดเด่นด้วยแจกันไซส์ยักษ์และโคมไฟดีไซน์แปลกตา

ตู้ไม้โบราณที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เป็นเฟอร์นิเจอร์ล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่งของร้าน

บริเวณส่วนเคาน์เตอร์บริการอาหารและเครื่องดื่ม

มาถึงพื้นที่ ๆ เป็นพระเอกของทางร้าน คือ ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่ติดกับธรรมชาติ โดยเป็นพื้นที่แบบเชิงเขา ทำให้มีลานลักษณะนี้ถึงสามชั้น โดยลานตรงนี้จะเป็นลานชั้นสุด มีพื้นที่มากที่สุด ทำให้สามารถมองเห้นวิวในมุมสูงได้ดี

หากใครที่ไม่ชอบการนั่งแบบโต๊ะกาแฟ ก็มีที่นั่งแบบบาร์ไว้ให้บริการ ซึ่งวิวด้านหน้าจะเป็นป่า น้ำตกและดอยสุเทพที่มีบรรยากาศร่มรื่นสุด ๆ

ประตูไม้บานพับแบบโบราณที่เหมาะกับเป็นฉากหลังถ่ายรูป

บันไดที่ตกแต่งด้วยปติมากรรมแบบยุโรปคลาสสิก จะพาเราไปสูงพื้นที่ลานชั้นล่าง

ลานบริเวณนี้เป็นพื้นที่ชั้นสองที่ออกแบบเน้นการนั่งดื่มกินกับโต๊ะยาวแบบบาร์ เพื่อให้สามารถสัมผัสและรับชมกับธรรมชาติได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงมีแบบโตะกลุ่มไว้ให้บริการอยู่