ในวันฝนตก อากาศเย็นๆ แบบนี้ ออกไปไหนมาไหนก็ลำบาก ลองมาทำอาหารง่ายๆ อย่างเมนู ต้มผักกาดดองซี่โครงหมู น้ำซุปหวานกลมกล่อม ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แค่คิดภาพตาม น้ำย่อยในกระเพาะก็เริ่มทำงานแล้วค่ะ
วันนี้ ในบ้าน จึงนำสูตร ต้มผักกาดกองซี่โครงหมู จากคุณ หัดเข้าครัว มาให้ลองทำกัน ขั้นตอนไม่ยาก ได้ความอร่อยของซี่โครงหมูนุ่มๆ และผักที่ต้มจนเปื่อยๆ พร้อมซดน้ำซุปร้อนๆ ให้คล่องคอ ถ้าพร้อมแล้วไปเตรียมส่วนผสม และชมวิธีการทำกันได้เลยค่ะ
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1. ผักกาดดอง 500 กรัม
2. น้ำเปล่า 1500 มิลลิลิตร
3. กระเทียม 2 หัว
4. รากผักชี 3 ราก
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
6. กระดูกหมู กระดูกอ่อน หรือเนื้อหมู 1 กิโลกรัม
7. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาล 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เริ่มแรกเราจะมาโขลกสามเกลือ รากผักชี กระเทียม พริกไทย กันก่อนค่ะ
.
บางคนชอบโขลกแบบหยาบ แบบละเอียด หรือบางคนจะบุบให้มีกลิ่นหอมก็ทำได้ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ แต่ถ้าอยากให้น้ำซุปใสแนะนำให้บุบพอมีกลิ่นหอมค่ะ สำหรับใหม่ชอบโขลกค่ะ เพราะจะได้กินเครื่องเทศพวกนี้ไปด้วยเลย
2. สำหรับผักกาดดองสามารถหาซื้อได้ตามตลาดสด หรือใช้แบบซอง แบบกระป๋องก็ได้ค่ะ ถ้าซื้อมาจากตลาดจะค่อนข้างเค็มและเปรี้ยวกว่าผักกาดกระป๋อง
แนะนำให้เพือนๆ ล้างทำความสะอาดสัก 2-3 น้ำ แล้วบีบน้ำออก นำมาหั่นเป็นพอดีคำ หรือถ้าเป็นห่วงเรื่องความสะอาดให้เอาไปต้มหรือต้มแค่ 1-2 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรคพอค่ะ
3. ส่วนซี่โครงหมู เพื่อนๆ อาจเปลี่ยนเป็นกระดูกอ่อน กระดูกหมู เนื้อหมูส่วนต่างๆ หรือสามชั้นก็ได้ค่ะ
4. นำหมูมาต้มกับน้ำร้อนก่อน เอาพวกน้ำหมู เลือด ต่างๆ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำทิ้ง เพื่อที่เวลานำไปต้มจริงๆ น้ำซุปจะได้ใส ไม่ขุ่น และน่ากินค่ะ ต้มสัก 2-3 นาที ก็กรองเอาน้ำออก ถือเป็นอันใช้ได้ค่ะ
5. จากนั้นเราจะเติมน้ำลงหม้อต้ม ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นลดไฟเป็นไฟอ่อน เพราะถ้าใช้ไฟแรงในการตุ๋นเศษเนื้อหมูจะหลุดออกมาทำให้น้ำขุ่น แถมเปลืองแก๊สด้วยค่ะ จากนั้นใส่สามเกลือและหมูลงไป ขั้นตอนนี้เราใช้เวลาตุ๋นประมาณ 30 นาทีค่ะ เพื่อให้เนื้อหมูเปื่อย หรือหากเพื่อนๆ ชอบเปื่อยมากก็ให้ตุ๋นนานกว่านี้ค่ะ
6. เมื่อครบ 30 นาที ใส่ผักกาดดองลงไปค่ะ แล้วตุ่นต่ออีก 30 นาที ยังคงใช้ไฟอ่อนเหมือนเดิมนะคะ
7. เมื่อครบกำหนดเวลา น้ำซุปจะเริ่มมีความเปรี้ยวและเค็มของผักกาดดองค่ะ ให้เราชิมรสแล้วเติมเครื่องปรุงลงไปตามใจชอบ มีซีอิ๊วขาวเพิ่มความหอม และตัดน้ำตาลทรายลงไปนิดหน่อยค่ะ
8. จากนั้นต้มต่อไปอีก 15-30 นาที ให้ทุกอย่างเข้าเนื้อ ก็ถือเป็นอันใช้ได้ ตักใส่ชามเสิร์ฟกับข้าวสวย ซดน้ำร้อนๆ ในวันฝนพรำ เป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลยค่ะ เนื่องจากเราใช้เวลาตุ๋นค่อนข้างนาน ทำให้น้ำซุปมีความหอม เปรี้ยว หวาน เค็ม สรุปคือรสชาตกลมกล่อมนั่นเองค่ะ และน้ำซุปที่ได้ก็ใส ไม่ขุ่นด้วย
ที่มา : หัดเข้าครัว
Facebook : Mai’s Kitchen
Youtube : Mai’s Kitchen
Instagram : kepkrapao
Twitter : Mai dairy
.