เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน หลายคนคงจะประสบกับปัญหา หลังคารั่ว จนทำให้มีน้ำซึมหยดลงมาในบ้าน
ปัญหาหลังคารั่วเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งไม่สามารถมองด้วยภายนอกแล้วคาดเดาได้ โดยในแต่ละเคสนั้น เจ้าของบ้านหรือช่างจะต้องทำการตรวจสอบในแต่ละจุดอย่างละเอียดเพื่อหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริง
วันนี้เรามีเรื่องราว วิธีแก้ปัญหาหลังคารั่วซึม จากคุณ อาซิ่มที่ยังไม่แก่ มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ซึ่งปัญหาหลังคารั่วที่พบในบ้านนั้นมีอยู่ 3 จุดด้วยกันคือ ห้องน้ำชั้นสอง ห้องนอน และหลังคาหน้าบ้าน จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรนั้น ตามไปชมกันเลยครับ
แชร์ประสบการณ์ “หลังคาบ้านรั่วและมีน้ำหยด” พร้อมวิธีแก้ปัญหาที่หาเองจนเจอ!
(จากคุณ อาซิ่มที่ยังไม่แก่)
สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เราขอมาแชร์ประสบการณ์การซ่อมบ้านที่มีน้ำรั่วซึมตามจุดต่างๆ ของบ้านเราค่ะ บ้านเราเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นค่ะ อยู่มาได้ 7 ปี เจอปัญหาน้ำรั่วน้ำซึมทั้งหมด 3 จุดซ่อมมาหลายครั้งก็ไม่หายสักที
เราเชื่อว่าไม่มากก็น้อยต้องมีคนเคยเจอแบบเราบ้างแน่ๆ จึงอยากมาแชร์ให้ได้ฟังกันค่ะ เราขอเล่าถึงปัญหาที่เราเจอในแต่ละจุดก่อนนะคะ
1. ห้องน้ำชั้น 2
มีน้ำหยดลงมาบนฝ้าชั้นล่าง ซึ่งเป็นตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เราก็ให้โครงการมาซ่อมให้ ช่างก็มารื้อกระเบื้องปูกระเบื้องใหม่ ทำฝาท่อใหม่ ทีแรกก็หายไม่มีน้ำหยดละ พอใช้ไปสักพักก็เป็นอีก ทุกครั้งที่เรียกช่างมา ช่างก็มายาแนวให้ใหม่แล้วมันก็หาย พอยาแนวสึกก็มีน้ำหยดเหมือนเดิม
เราซ่อมจนอ่อนใจ เราเลยใช้วิธีเอากะละมังไปวางไว้ตรงจุดที่มักมีน้ำหยด เหอะๆ แล้วก็พยายามยาแนวเองเมื่อเห็นว่ายาแนวเริ่มสึก เราก็ทำอย่างนี้มาตลอดหลายปีค่ะ
2. หลังคาหน้าบ้าน
เป็นส่วนที่เราต่อเติมเอง หลังคาเป็นหลังคาลอนคู่โครงเหล็ก ซึ่งก็เจอช่างไม่ดีอีก (ซวยซับซวยซ่อนสุดๆ) ทำหลังคาให้ไม่ดีมีน้ำรั่วแถวๆจุดรอยต่อระหว่างตัวบ้านกับหลังคา ทำให้ฝ้าที่ใส่ไว้พังเป็นรูหมดเลย
พอจะเรียกมาแก้ก็ติดต่อช่างไม่ได้ซะแล้ว ก็เลยเรียกช่างอื่นมาซ่อมให้ ช่างเค้าก็เอาปูนมาทำปีกนก (เห็นช่างเค้าเรียกแบบนี้อ่ะนะ อิอิ) ตรงช่วงรอยต่อระหว่างบ้านกับหลังคาให้ แต่ก็ยังมีน้ำรั่วเหมือนเดิม ซึ่งช่างคนนี้บอกเราว่าน่าจะเป็นเพราะช่างคนเก่าทำโครงหลังคาลาดชันน้อยเกินไปจึงทำให้น้ำไหลย้อนกลับ แก้ยาก เราก็เลยทำใจเพราะส่วนตรงนี้เราก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากนอกจากจอดรถ ก็ทนไปตามเคย
3. น้ำหยดจากหลังคาบนห้องนอน
อันนี้เรื่องใหญ่เลย ปัญหานี้เกิดขึ้นตอนที่เราอยู่มาได้ปีกว่าแล้ว ซึ่งก็หมดสัญญาประกันบ้านกับทางโครงการละ
เราสังเกตุดูการหยดของน้ำ มันจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ฝนตกหนักๆ เท่านั้น แล้วก็จะเกิดหลังจากฝนตกไปแล้วสักพักนึง เมื่อเราเปิดฝ้าดูก็พบว่าจุดที่น้ำหยดจะอยู่ตรงช่วงแนวที่ครอบจั่วพอดี
เราก็จ้างช่างในโครงการนี้แหละมาดู แล้วเค้าก็แนะนำให้ทาฟิ้งโคส แต่ก็ยังมีน้ำหยดเหมือนเดิม เราทาอยู่ 3 รอบ หมดเงินกับการจ้างช่างมาซ่อมหลายพัน สามีถึงขนาดขึ้นไปทาเองก็ยังไม่หาย สุดท้ายเราก็อ่อนใจเหมือนเดิม ทางแก้ในตอนนั้นคือเอากะละมังไปวางบนฝ้าตามแนวที่มีน้ำหยดก็เสียกะละมังไปหลายใบอยู่ เหอะๆ
เราทนแบบนี้มาหลายปีด้วยความเบื่อหน่ายในการจ้างช่างมาซ่อม ซ่อมแล้วไม่หาย จนสุดท้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มานั่งคิดๆดู เราจะปล่อยให้บ้านเราเป็นแบบนี้ตลอดไปหรอ มีน้ำหยดแล้วเอากะละมังมาลองไว้มันใช่เหรอ บวกกับเงินเก็บก็พอมีอยู่บ้างแล้ว จึงตัดสินใจหาข้อมูลและหาช่างมาซ่อมอีกครั้ง
ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยมาตั้งกระทู้ถามหาช่างซ่อมในพันทิปอยู่เหมือนกัน ได้รับคำแนะนำและความรู้มากมายจากเพื่อนๆสมาชิกทำให้เราพอจะมองภาพออกบ้างว่าปัญหาที่เราเจอมันเกิดจากอะไร ทำให้เราสามารถคุยกับช่างที่มาซ่อมบ้านเราได้เข้าใจมากขึ้น
ตอนนี้ก็มาถึงวิธีการแก้ไขของแต่ละจุดแล้วค่ะ ขอเล่าเรียงตามแต่ละจุดเช่นเคย
จุดที่ 1 ห้องน้ำ
เราเปิดฝ้ามาหาจุดที่มีน้ำหยดตามคำแนะนำต่างๆ เราก็พบว่าจุดที่น้ำมันหยดอยู่ตรงฝาท่อเพราะมันจะมีสีขาวๆของยาแนวเลอะตามท่อน้ำทิ้งเต็มไปหมด เราจึงคิดว่าน้ำที่หยดมันน่าจะเกิดขึ้นจากรูฝาท่อที่ไม่พอดีกันกับฝาท่อแน่ๆ
เราจึงหาข้อมูลดูว่าจะมีอะไรที่สามารถมาใช้แทนยาแนวได้บ้าง เราก็พบเจ้าตัวนี้ค่ะ กาวดินน้ำมันตามรูป ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้ น่าจะร้อยกว่าบาทมั้งนะ
มันจะเป็นเหมือนดินน้ำมันข้างในสีขาวข้างนอกสีฟ้า เอามานวดๆ ให้เข้ากันแล้วแปะไปตามขอบที่ท่อน้ำทิ้งแล้วเอาฝาท่อแปะลงไปแล้วเอาดินน้ำมันนี้แปะรอบๆ ฝาท่ออีกครั้ง เราต้องตัดมาใช้ทีละน้อยนะคะ เพราะว่ามันจะแข็งเร็วมากหลังจากที่เรานวดมันแล้ว
พอดินน้ำมันแข็งตัวคราวนี้ละมันจะกันน้ำได้อย่างดีเลย เวลาล้างห้องน้ำมันก็ไม่สึกไม่หลุดง่ายเหมือนยาแนวด้วย ปัญหาจุดนี้จึงหมดไปด้วยฝีมือเราเอง 5555
จุดที่ 2 หลังคาหน้าบ้าน
จุดนี้เราตัดสินใจเปลี่ยนหลังคาใหม่เป็นหลังคาเมทัลชีทไปเลย จ้างช่างที่เคยทำให้บ้านน้องชายมาเปลี่ยนให้ ทั้งหมดเสียเงินไป 12,000 บาท หมดปัญหาเลยคราวนี้ ส่วนฝ้าที่พังไปเราก็ซื้อมาใส่เองใหม่ หน้าบ้านก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง
จุดที่ 3 หลังคาบนห้องนอน
เราก็ให้ช่างที่มาเปลี่ยนเมทัลชีทนี้แหละจัดการให้ แต่ก่อนที่จะถึงวันที่ช่างจะมาทำ เราก็โทรปรึกษากับช่างหาวิธีอยู่หลายอย่าง ทีแรกเราจะเปลี่ยนที่ครอบจั่วนั้นใหม่ แต่ช่างบอกว่าใช้ซิลิโคนยาก็ได้ เราก็มานั่งคิดดูไม่อยากจะเชื่อช่างเท่าไหร่เพราะดูๆ แล้วช่างเค้าถนัดแต่ทำหลังคาเมทัลชีทเค้าไม่ได้รับซ่อมบ้านโดยตรง
เราเลยกลับมานั่งดูข้อมูลในกระทู้เก่าอีกครั้ง ก็เลยคิดว่าถ้าจะเปลี่ยนที่ครอบจั่วให้เป็นระบบแห้งก็ไม่ได้เพราะบ้านเราเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังคามันต่อเนื่องกัน หรือถ้าจะเปลี่ยนที่ครอบจั่วแต่ใช้ระบบเปียกเหมือนเดิมก็ไม่ใช้ทางแก้ไขที่ดีแน่ เพราะสุดท้ายปูนที่ฉาบไว้มันก็ต้องเสื่อมและเกิดปัญหาขึ้นอีกเหมือนเดิมแน่
เราเลยคิดว่าเราน่าจะหาวัสดุอะไรที่มาทาเพื่อกันน้ำได้ดีกว่า เราเลยไปที่ไทวัสดุเจอน้องพนักงานคนนึงแนะนำสี ทีโอเอ รูฟซีล ซันบล็อค พรีเซนคุณสมบัติให้ฟังอย่างชัดเจน บวกกับเคยเห็นในโฆษณาอยู่บ้าง เราจึงตัดสินใจซื้อมา 2 ถัง น้องพนักงานแนะนำเพิ่มเติมให้ใช้ตาข่ายเพื่อยึดเกาะร่วมด้วย ช่วยให้ได้ประสิทธิภาพที่มากขึ้น
.
ถึงวันที่ช่างเมทัลชีลมา ช่างก็ไปจัดการขึ้นไปทาให้เรา เราก็บอกวิธีกับช่างเรียบร้อย และเน้นย้ำให้ช่างทาให้ทั่วๆ ไปเลยนะ อยากให้มันเลิกหยดสักที และหลังคาก็ออกมาตามรูปนี้ ขาวเด่นกว่าใครเพื่อนเลยบ้านเรา 5555
นอกจากทาหลังคาแล้ว เราก็ให้ช่างทาบริเวณข้างล่างขอบหน้าต่างห้องนอนด้วย ซึ่งมันก็มีน้ำซึมตรงกำแพงส่วนนี้เหมือนกัน เหอะๆ จะว่าไปบ้านเรานี้ก็มีน้ำซึมหลายจุดนะ เฮ้อ…
พอช่างทาเสร็จ ประมาณ บ่าย 3 ตามรายละเอียดข้างถังสีระบุไว้ว่าต้องทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 12 ชม. แต่ทว่าวันนั้นฟ้านี้ครึ้มเชียว เราสองคนกับสามีลุ้นมากๆ ว่าฝนจะตกมั้ย ดูในเฟสแถวบ้านเพื่อนหลายคนฝนตกแล้ว เรานี้ใจไม่ดีเลย ตกกลางคืนคอยฟังเสียงฝนตลอด สุดท้ายฝนไม่ตก โอ้ย!! โชคเข้าข้างแท้ๆ
ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ฝนตกตอนกลางดึก เราสองคนกับสามีก็สะดุ้งตื่นมาฟังเสียงฝนและฟังว่าน้ำจะหยดลงกะละมังที่วางไว้อีกมั้ย สรุปไม่มีเสียงเลยสักนิดเดียว คือดีใจมากจริงๆ และแล้วเราก็ไม่ต้องฟังเสียงเพลง ปอกแปะ ปอกแปะ โป๊ก โป๊ก อีกต่อไปเวลาฝนตกหนัก หลับได้อย่างสบายใจสักที เฮ้อ
สรุปค่าใช้จ่ายซ่อมบ้านในครั้งนี้
1. กาวดินน้ำมัน 160 บาท (จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ ประมาณเอานะคะ)
2. ฝ้า 2 กล่อง 334 บาท
3. เมทัลชีท 12,000 บาท
4. สี TOA 2 ถัง + ตาข่าย 1,800 บาท
5. ค่าแรงช่างขึ้นไปทาสี1,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 15,294 บาท
ก็ถือว่าการซ่อมบ้านครั้งนี้เสียเงินไม่เยอะมาก และก็แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดี ต้องขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนๆในพันทิปอีกครั้ง และหวังว่ากระทู้ของเรานี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่เจอปัญหาแบบเรา ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอจบกระทู้นี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ บาย
ที่มา : อาซิ่มที่ยังไม่แก่ .