การออกแบบ ห้องครัว ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะแต่ละคนต่างก็มีความถนัดและมีมุมการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การออกแบบที่ดี ควรออกแบบให้ตรงตามลักษณะการใช้งานและตรงตามความชอบของแต่ละบุคคล
วันนี้ ในบ้าน เลยอยากชวนเพื่อนๆ ชาวเว็บมาชม การออกแบบห้องครัว ด้วยตัวเองจากคุณ Travel Animal โดยผลออกมาเป็นที่น่าพอใจและตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง จะสวยงามน่าใช้งานมากแค่ไหนลองไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
แบ่งปันประสบการณ์ออกแบบห้องครัวขนาดเล็ก ตกแต่งเรียบหรู พร้อมอุปกรณ์ทำครัวแบบครบครัน
(โดย Travel Animal)
เมื่อได้ฤกษ์ซื้อบ้านใหม่ หลาย ๆ คนก็คงต้องมีการต่อเติม ตกแต่ง เพื่อให้ได้บ้านในฝันที่รอคอยกัน เป้ก็เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีว่าตัวเองซื้อบ้านมือสองที่เจ้าของแต่งเกือบหมดแล้วทุกอย่าง เหลือแค่ห้องครัว (ซึ่งเป็นห้องที่เป้ให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะว่าการใช้ห้องครัวของแต่ละบ้านมันต่างกัน) ตอนแรกรู้สึกดีใจที่ได้ทำครัวเอง แต่พอจะเลือกว่าใช้ใครเนี่ยมันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะความต้องการมีไม่จำกัดแต่เงินในกระเป๋าจำกัด ก็เลยต้องเลือกบริษัทที่เราคิดว่าดีที่สุดกับงบประมาณที่มี ดังนั้นปฏิบัติการตามหาช่างเพื่อมาทำครัวพื้นที่เล็ก ๆ คือ ห้องกว้าง 2.6 x 3 เมตร จึงเริ่มขึ้น
เริ่มแรกสามีบอก “เธอเราเอาครัวพอประมาณพอนะ ทำเคาน์เตอร์เดียวก็พอ ประหยัดเงิน” เราก็แบบอึ้ง ไม่ได้นะคะ ทำเคาน์เตอร์เดียว ช้านไม่พอ ช้านต้องการพื้นที่ ====> สุดท้ายได้เคาน์เตอร์แถมมาจ้า
สามี “เธอ เพื่อความปลอดภัยของลูก เราเอาเตา Induction นะ” ไม่นะ ช้านต้องการเตาแก๊ส เพราะทำกับข้าว อาหารไทย สะใจดี ====> ข้อนี้เถียงแพ้เลยต้องยอมค่ะ
สามี “เธอ เตา Induction เอาแบบฝังนะ แต่งบมีไม่เกิน 20,000 บาท” ค่ะ ฝันไปเลยค่ะคุณ ถ้ามีงบแค่นี้เตาแก๊สโลด 10,000 เดียวเอง อย่างเริ่ด หลายหัวเตา ====> งบบานมากกกก
สามี “เธอ เอาเครื่องล้างจานด้วยนะ” ม๊ายยยยย มันแพงและทำให้พื้นที่ครัวฉันลดลง ====> ดีตรงไม่ต้องล้าง แต่มันทำให้พื้นที่ลดลง
สามี “เอาสวย ๆ ครัวฝรั่ง แข็งแรง แต่ไม่แพงนะ” ช้านจะไปหาที่ไหน ??? =====> เดี๋ยวรอดูค่ะ
Etc…..
คิดว่าบทสนทนาข้างบน หลาย ๆ บ้านคงคุ้นเคย เราเองก็มีการถกเถียงกันเยอะมากค่ะ และก็ชวนกันไปดู HOMEPRO สามีเราก็เมากับเหล่าบรรดาเซลในห้าง จนปวดหัวต้องกลับมาบ้าน และสรุปว่า ไม่เห็นมีอันไหนดีเลย แถมแพงด้วย สรุป ต้องมาหาข้อมูลในเน็ท ไปของบจากนาง จนในที่สุด งบ 200,000 บาทของเราก็ขยายไปที่ 400,000 บาท รวมทุกอย่าง และจากเคาน์เตอร์ ตัว I สองตัวขนานกัน ก็มีเคาน์เตอร์ Pantry ตัว L หน้าห้องครัว ขนาด 80 x 2.10 เมตร เพิ่มมาด้วย
โดยเรา กำหนด Spec ของครัวเราแบบนี้
1.ต้องทำจากอุปกรณ์ที่แข็งแรง ทนน้ำ ทนปลวก ซึ่งอย่างต่ำวัสดุต้องเป็น VIVA BOARD, หรือ PLAZWOOD ท๊อปต้องเป็นแกรนิตหรือหินสังเคราะห์เท่านั้น
2.มีเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ เตาอินดักชั่น เตาอบ และมีช่องเพื่อเอาไมโครเวฟมาบิ้วอินทีหลัง (ตอนนี้ใช้ของที่มีไปก่อน) มีเครื่องล้างจาน (ซึ่งได้จากเจ้าของเก่ายกให้) มีที่ดูดควันแบบต่อท่อ ซิ้งต้องเป็นสองหลุมแบบที่ลึกสุดในตลาดที่มี
3.ดีไซน์ครัว สามีขอแบบเรียบ ๆ แนว Contemporary ไม่เอา Vintage เพราะบ้านก็หวานมากพอแล้ว และอีกอย่างคือ เราอยากได้หน้าบานเรียบ เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด
4.ครัวให้ทำลักษณะเหมือนเจ้าของบ้านเดิม คือเป็นครัวปิด ในห้องซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้นกับตัวบ้าน แต่สามีเราขอให้มีเคาน์เตอร์บาร์เพิ่ม ซึ่งเราก็ว่าดี เพราะมันจะได้มีที่วาง ที่พักอาหาร ก่อนยกมาเสิร์ฟ แต่เราคิดว่าจะใช้เคาน์เตอร์บาร์นี้ กินมื้อเช้า หรืออาหารว่างด้วย (ตอนแรกสามีเราอยากได้ครัวเปิดเชื่อมกับห้องกินข้าวและห้องรับแขกเลย แต่เราปฏิเสธไป เพราะคิดว่ากลิ่นอาหารคงตลบอบอวลน่าดู
หลังจากคุยกันจนได้ข้อตกลงว่า ครัวของเราจะเป็นประมาณไหน เราก็เลยตามหาผู้รับเหมา โดยเราก็มาเขียนกระทู้ถามในพันทิปแต่ก็ข้อมูลก็น้อยมากค่ะ เจ้าที่มีส่วนใหญ่รับทำ MDF เท่านั้นซึ่งเราไม่ต้องการ เราก็เลยลองโทรเช็ค คุย กับหลาย ๆ เจ้าเท่าที่ทำไหว และรู้สึกพอ ทีนี้เราก็เลยคิดว่ามาเขียนไว้ใน Pantip ดีกว่า เผื่ออนาคตใครจะตามหาจะได้มีข้อมูลไปช่วยในการตัดสินใจ รีวิวนี้จึงเป็นรีวิวที่พูดถึง Supplier แต่ละรายที่เราได้คุย ต้องขอบอกว่าอันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ซึ่งเราได้เจอเจ้าหน้าที่ คนเป็น ๆ แค่สามรายที่เราเลือกมาเท่านั้น การตัดสินใจของเราอาจจะไม่ถูกต้อง 100% และอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป ดังนั้นจึงขอให้เพื่อน ๆ ใช้ข้อมูลนี้แค่เป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นค่ะ
1.Persandplan ซึ่งหลายๆ ท่านในห้องนี้แนะนำ เราได้มีโอกาสคุยกับคุณอี๊ดก็รู้สึกประทับใจมาก ๆ ค่ะ และดูเค้าเต็มที่ตั้งใจบริการมาก ๆ เลย แต่สุดท้ายไม่ได้เลือกที่นี่คือไม่กล้าให้เค้ามาวัดพื้นที่ด้วย เพราะว่าพี่เค้าเน้นทำแนววินเทจซึ่งสามีเราไม่เอาแน่นอน และวัสดุของเค้าก็มีแต่ MDF ซึ่งเราก็คิดว่ามันไม่ทนทานพอสำหรับครัวบ้านเราที่ทำจริงจัง แต่ไม่เอาครัวปูน (https://www.facebook.com/Persandplan-653597574676056/)
2.Kitchen Design by CT เราได้ติดต่อไปเพื่อถามรายละเอียดทางไลน์เบื้องต้น แต่พอเราถามไปเค้าก็บอกว่าให้ไปดูใน FB ซึ่งเราก็ไปดูแล้ว แต่ยังมีคำถาม ถามไปก็เหมือนเค้าอาจจะรำคาญเราก็เลยตัดออกไปค่ะ ไม่เป็นไร เราอาจจะทำให้เค้าเสียเวลา (https://www.facebook.com/KitchendesignbyCT/)
3.Hollywood 88 Studio (http://www.hollywood88.com/)เป็นหนึ่งในบริษัทที่เราให้เข้ามาวัดหน้างาน ออกแบบมาเสนอราคา การพูดคุยเบื้องต้นดีมาก มีวัสดุให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัด (ใช้พวกปาร์ติเกิ้ลบอร์ดธรรมดา) ไปจนถึงราคาแพงทนทาน โดยใช้วัสดุเฉพาะ เรียกว่า Lyca มีแบบให้เลือกเยอะมาก ทาง Hollywood จะมีการพูดคุยสอบถาม แล้วให้ราคามาเบื้องต้นเพื่อเป็นการตัดสินใจ ถ้าลูกค้าสนใจก็สามารถเรียกให้ไปวัดพื้นที่ดูหน้างานได้ โดยมีการเก็บเงิน 5,000 บาท ซึ่งเงินนี้ถ้าตัดสินใจทำกับทางบริษัทก็สามารถนำไปเป็นส่วนลดได้
การนัดวัดพื้นที่จะต้องมีการโอนเงินก่อนแล้วถึงจะนัดวันได้ ซึ่งเค้าจะต้องได้รับเงินก่อนเท่านั้น อย่างกรณีเรา เรานัดวันเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากเรายุ่งมาก โอนเงินให้เค้าช้า เค้าตัดคิวเราออกไปให้คนอื่นเลย แล้วเราก็ต้องหาวันใหม่ ซึ่งสำหรับเราค่อนข้างลำบากเพราะเราก็เป็นคนงานยุ่ง งานเยอะ เดินทางต่างประเทศบ่อย ตอนแรกเจอ Supplier แบบนี้เราก็ลังเล แถมค่าวัดพื้นที่ก็แพง แต่เราตั้งใจแล้วว่าจะเรียกว่ามาวัดให้เปรียบเทียบกัน แล้วมาเขียน Pantip อยู่แล้ว เราก็เลยยอม และแจ้งว่าเรามีเดินทางตลอดให้เค้าหาคิวแทรกให้ ก็ได้คิว 1 อาทิตย์หลังจากวันที่ตั้งใจไว้ตอนแรกค่ะ
วันที่มาวัดพื้นที่ ก็ปรกติคือเค้าเข้ามาวัดพื้นที่ แล้วก็มีการให้เราให้เราเลือกสี หน้าท๊อป เค้าใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการวัดพื้นที่และพูดคุยกับเรา เราพยายามบอกคนที่มาวัดว่าเราต้องการอะไรบ้าง เค้าก็ฟัง (แต่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ตั้งใจฟัง) พอถามเค้าก็บอกว่าแล้วแต่ลูกค้า (ซึ่งลูกค้าหลายคนอาจจะชอบ) แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้คนมาช่วยเสนอไอเดีย แต่ตอนนั้นเราไม่พูดอะไร รอดูผลงานก่อนก็ได้ ช่างเข้ามาวัดหน้างาน 9 กรกฏาคม กว่าเราจะได้รายละเอียดทั้งหมด ก็ 20 กรกฏาคม ระหว่างนั้นต้องมีการปรับแก้ ขนาดของเคาน์เตอร์ (ทั้ง ๆ ที่เราก็บอกไปแล้วว่าเราต้องการความยาวเท่าไหร่ เนี่ยเพราะไม่ตั้งใจฟังลูกค้า) เค้าส่งเป็นรูปวาดมาให้เราดูว่าแบบจะประมาณนี้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งจริง ๆ โดยรวมเราก็โอเคกับแบบ แต่เนื่องจากห้องครัวของเรา เจ้าของเก่าเค้าได้มีการต่อท่อน้ำดี สำหรับเครื่องล้างจาน และซิ้ง พร้อมทั้งต่อไฟสำหรับเตาอบและเจาะฝ้าสำหรับตำแหน่งท่อดูดอากาศไว้แล้ว ซึ่งคนมาวัดหน้างานก็ได้มาดูจุดดังกล่าว แต่แบบที่ออกมามันไม่สัมพันธ์กัน และทำให้เราต้องเดินสายไฟเพิ่ม 3 จุดทั้ง ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว และเราต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งเราคิดว่าไม่โอเค นอกจากนี้ราคาก็แพงกว่าเจ้าอื่น มันก็เลยทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเราไม่มีตัวเปรียบเทียบอื่น เราก็ต้องบอกว่าเราอาจจะเลือกเค้ามาทำเลยค่ะ เพราะเท่าที่ดูผลงานเค้าสวย ๆ ทั้งนั้น
ข้อด้อยที่ทำให้เราไม่เลือกที่นี่
1.เค้าไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ที่เค้ามีดีลด้วยคือ Hafele ซึ่งบังเอิญว่าเราไม่ต้องการอะไรจาก Hafele เลย ยกเว้นตู้ดึงที่สูงถึงเพดาน และสามีเราต้องการบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า (เตาอบ เตาอินดักชั่น) ด้วยมากกว่า ก็เลยเลือกที่อื่น
2.เค้ารับทำเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ดังนั้น พื้นที่ระหว่างเคาน์เตอร์และตู้ลอยที่เราจะติดกระเบื้องหรือโมเสส เราต้องหามาเอง โดยเค้ามีบริการทำให้ (อาจจะมีค่าบริการและเราต้องติดต่อเอง) ซึ่งเรามองว่าคนเวลาน้อยอย่างเราที่สั่งแทบทุกอย่างทาง line และ Internet จะไม่สะดวก เราก็เลยลดคะแนนเรื่องความสะดวกในการประสานงานลง
3.ความคล่องตัวในการเปลี่ยนแบบ หรือความตั้งใจในการเปลี่ยนแบบตามความต้องการของลูกค้ามีน้อยกว่าคู่แข่ง
4.ตอนที่ได้รูปครัวมา เราได้มาเป็นรูปวาดมาให้ แต่ไมได้แบบเรนเดอร์ภาพเสมือน ซึ่งก็พอดูออก แต่มันมีคนที่เค้าทำภาพเสมือนมาให้ มันก็ทำให้เราเห็นความแตกต่าง
5.เราคิดว่าน้องที่เค้ามาวัดหน้างาน เค้าไม่ค่อยสนใจเรา เราก็เลยเกิดความลังเลว่า ขนาดมาวัดหน้างาน เค้ายังดูไม่ค่อยสนใจความต้องการของลูกค้า แล้วถ้าเราให้เค้าทำให้เราจริง คนอื่น ๆ ในทีมจะเป็นยังไง นอกจากนี้เรายังคิดว่าน้องเค้ามีความชำนาญในงานน้อย คือสังเกตเราขอให้เค้าเสนอความเห็น ไอเดีย เค้าบอกว่า “แล้วแต่ลูกค้าชอบ” แต่ในบางเรื่องเช่นการวางเตาอบ เค้าก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่า แบบที่เค้าเสนอจะสวยกว่า (ก็สวยกว่านะ แต่พี่ไม่สะดวกค่ะ เพราะพื้นที่มีข้อจำกัดแล้ว) คือไม่ใช่ว่าน้องเค้าแย่นะคะ น้องเค้าก็ใช้ได้ ถ้าคะแนนเต็ม 10 เราให้ 6 ( แต่มีคนแย่กว่านี้เยอะ และหลายคนที่เราคุยด้วยทางโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง เราไม่ให้มาวัดหน้างานเลยค่ะ) แต่เค้าอาจจะประสบการณ์น้อยไปแค่นั้น ซึ่งถ้าฝึกต้องดีขึ้นแน่นอน
ข้อดีของ Hollywood
1.เค้ามีสีและวัสดุตัวเคาน์เตอร์ หน้าท๊อปให้เลือกเยอะหลากหลายมากกกกกกกกกกก แบบก็สามารถทำได้หลายสไตล์ คือถึงแม้ว่าเราจะต้องไปหาโมเสสหรือกระเบื้องมาติดผนังเอง ถ้าอยากได้ความหลากหลาย เราก็ว่าที่นี่มีนะ ในขณะที่หลาย ๆ ร้าน หรือบริษัท จะมีสี แบบ และวัสดุที่จำกัด
2.การประสานงานโดยรวมพอใช้ ให้คะแนน 7 คะแนน และมีการตามงานค่ะ คือทำราคา ทำแบบมา แล้วมีมาถามว่าสนใจหรือไม่ วางมัดจำเมื่อไหร่ แต่ขาดตรงถามไถ่ความต้องการของลูกค้าไปนิด ถ้าเพิ่มได้จะดีมาก
4.KVIK (http://www.kvik.co.th/)ครัวแบรนด์ยุโรปจากประเทศเดนมาร์ค ดีไซน์ดีสวยงามน่าใช้ แต่ KVIK Thailand มีตัวเลือกน้อยมากและสีจำกัด ถ้าตรงกับความต้องการคือสีดำ สีขาว ก็สามารถดูไว้เป็นตัวเลือกได้ค่ะ เซลพูดจาดีมากโดยเฉพาะสาขาพระรามเก้าและตอนขายบอกว่าทำได้ทุกอย่าง แต่วันวัดหน้างานจริง หลายอย่างทำไม่ได้เพราะของที่เค้าสั่งมามีตัวเลือกน้อย
ข้อดี
1.เป็นแบรนด์ยุโรป ชื่อเสียงเชื่อถือได้
2.บริการดี ไม่เสียค่าบริการในการให้ไปวัดพื้นที่
ข้อเสีย
1.เจ้าหน้าที่อยากไปวัดหน้างานช่วง วันจันทร์ – ศุกร์ เท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่จะจัดเวลา แต่ถ้าเป็นมาดามเฝ้าบ้านตลอดก็จัดไปค่ะ
2.ราคาสูงกว่าบริษัทคนไทย (เค้าขายแบรนด์) แต่เท่าที่เราดูวัสดุมันไม่น่าจะแพง แค่ MDF หรือ ปาร์ติเกิ้ล ดีไซน์นอกแต่มันก็ทำมาจากเมืองจีนอะนะ เพือนเราคนเดนมาร์คงงว่าทำไม ที่เมืองไทย แบรนด์นี้กลายเป็นของไฮโซ ทั้ง ๆ ที่เดนมาร์คมันก็คือยี่ห้อที่คนทั่วไปใช้กัน (คนรวยมาก ๆ ใช้ยี่ห้ออื่น)
3.วัสดุทั้งตู้ หน้าบาน สีมีให้เลือกจำกัด คือราคาสูงขนาดนี้แต่วัสดุเป็นแค่ปาร์ติเกิ้ลเองอะและมีเพือนบอกว่าใช้งานหนักไม่ได้ มันบวม อันนี้เป็นข้อที่กลัวมากค่ะ
4.แบบถังขยะที่เป็นบิ้วอินในเคาน์เตอร์มันเป็นแบบไม่มีฝาปิดหรือที่เป็นฝาปิดก็ต้องยกเปิดปิดเอง ซึ่งเราว่ามันไม่สะดวกและไม่เหมาะสมกับครัวเมืองร้อนอย่างบ้านเรา
5.ตอนที่เราไปคุยกับเซลหรือเพือนเราที่ใช้ยี่ห้อนี้ เซลบอกทำได้ทุกอย่าง tailor made แต่เอาเข้าจริง เราขอเคาน์เตอร์เข้ามุม (Pantry หน้าห้องครัว) เค้าบอกทำไม่ได้ ความยาวไม่พอ ไม่ได้ขนาดกับของที่เค้ามี พอเราให้ทำตู้ลอยฝั่งหน้าต่าง ซึ่งตู้จะสั้นและเล็กกว่าปรกติ เค้าบอกว่าไม่มีของ ทำไม่ได้ เราต้องการให้เค้าทำตู้ลอยฝั่งเตาอินดักชั่น สูงถึงเพดาน เค้าบอกไม่ได้ ไม่มีตู้ไซส์นี้สั่งเข้ามา สุดท้ายคือหลายอย่างไม่ได้ ก็เลยไม่ได้สั่งค่ะ
6.แบบก็ช้ามาก ต้องตามแล้วตามอีกจนสุดท้ายเลิกตาม
5.GIO (http://www.giohome.com/) ครัวสแตนเลสที่ดูดีมากกกกกกกกกกกก ได้โทรไปคุยคร่าว ๆ แต่ไม่ได้นัดมาวัดพื้นที่ เพราะสามีไม่ชอบ (สามีเคยเห็นของบ้านเพื่อนที่เป็นเชฟ) และอีกอย่างมันมีแต่สีที่เราไม่ชอบ ก็เลยไม่ได้คุยต่อ
6.Starmark (http://www.starmark.co.th/) จริง ๆ เป็นบริษัทที่เราคาดหวังมากและคิดว่าคงใช้ที่นี่ แต่พอโทรไปขอคุยกับเซลก็ไม่ได้รับข้อมูลอะไร ทุกอย่างบอกให้ไปดูที่โชว์รูมทั้ง ๆ ที่เราก็บอกว่าไม่มีเวลา เค้าก็ไม่สามารถให้คำแนะนำ รายละเอียดเบื้องต้นทางโทรศัพท์ได้ ประกอบกับตอนหลังไปหาข้อมูลเพิ่ม เห็นว่าลุกค้าคงเยอะ รอนาน เราก็เลยเลิกติดต่อไป
7.Kitchen Form (http://kitchen-form.com/) เป็นบริษัทที่เราติดต่อเพื่อจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากเรางานยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปเดินห้างเพื่อซื้อของ เสาร์อาทิตย์ต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก แถมเราคิดว่าไปเดินเลือกก็ไม่ค่อยได้อะไร เพราะเซลก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี เราก็เลยใช้วิธีหาทางอินเตอร์เน็ท ถ้ามีพวกเรื่องเทคนิคอันไหนไม่แน่ใจ เราก็โทรไปถามบริษัทนั้น ๆ ฝ่ายช่าง ฝ่ายเซอร์วิส ฝ่ายแนะนำผลิตภัณฑ์ไปเลย จนเราก็มาเจอเว็บนี้ และได้ตกลงสั่งสินค้า เพราะสะดวก สามารถสั่งทางไลน์ เจ้าหน้าที่คุณมลก็อธิบายสินค้าได้ดี จากตอนแรกที่ไม่คิดจะใช้เลย พอดูเว็บเค้าบ่อย ๆ ก็เหลือบไปเห็นว่าเค้ามีบริการทำครัว ได้เข้าไปดูก็เออ มันก็ดูดีนะ แถมหลาย ๆ บ้านก็เป็นครัวบิ้วอินท์ ซึ่งใช้ VIVA BOARD และโครงเพาะไม้สัก ซึ่งแข็งแรงทนทาน เราก็เลยเออลองดู พอลองคุยก็จะต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคน คือน้องยอด (ยาหยี – เค้าชื่อนี้จริง ๆ นะ) ซึ่งเค้าก็จะถามพื้นที่มาคร่าว ๆ แล้วถามว่ามีอะไรอย่างไรบ้าง แล้วเค้าก็จะคิดราคาคร่าว ๆ มาให้เลยภายใน 2-3 วัน ถ้าตกลงตามราคานี้ เราก็สามารถให้ช่างมาวัดพื้นที่ได้ ซึ่งเค้าคิดค่าบริการ 1500 บาท และถ้าใช้บริการก็สามารถเอาไปหักกับค่าใช้จ่ายในการทำครัวได้ ในส่วนของครัวเราสามารถเลือกได้ว่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ากับเค้า หรือจะซื้อมาเอง (ซึ่งมีค่าติดตั้ง) โดยเบื้องต้นเราบอกว่าเราจะซื้อจากของเค้า เพราะได้ติดต่อและดูสินค้าไว้แล้วกับคุณมล ต่อมาก็นัดวันให้ช่างมาวัดพื้นที่ ช่างที่เข้ามาวัดดีมากเลยค่ะ เค้าถ่ายรูปห้องครัวเราทุกซอกทุกมุม ถามเราหลายอย่างมากว่าลักษณะการใช้งานของเราจะเป็นแบบไหน เค้าถามคำถามเราสองสามคำถามเราก็แบบเออ ใช้ได้เนอะ เช่น
“พี่จะเอาเคาน์เตอร์สูงแบบมาตรฐานฝรั่งหรือคนไทยครับ?” เพราะเค้าเห็นสามีเราเป็นชาวต่างชาติ พอเราบอกว่า”. “เออ เอาสูง ๆ แบบครัวยุโรป แล้วมันต้องสูงเท่าไหร่อะ” น้องบอกว่าคนไทยชอบ 80-85 แต่ฝรั่งประมาณ 93-94 เราก็ตามฝรั่งเลยจ้า (คำถามนี้น้องเค้าถามเราอยู่เจ้าเดียวนะคะ ไม่นับ KVIK ที่มันเป็นมาตรฐานและไซส์ยุโรปอยู่แล้ว)
หลังจากนั้นเค้าก็จะมีวัสดูต่าง ๆ ที่เค้าใช้ในการทำครัว มีตั้งแต่ปาร์ติเกิ้ลไปจนถึง VIVA BOARD และไม้สักเพาะโครงชุบน้ำยากันปลวก (จำชื่อไม่ได้อะ) หน้าท๊อป หน้าบาน และอื่น ๆ ที่นี่มีสีให้เลือกน้อยกว่า Hollywood Studio 88 อาจจะเพราะลักษณะหน้าบานของเค้าจะมีแบบที่เป็นลามิเนต กับอีกแบบนึงคือเป็นการอบเมมเบรนไฮกรอส หลังจากที่คุยกันจนงงและมึน (ขอบอกว่ามึนมาก และความต้องการเพิ่มขึ้นมาก สงสัยมันเป็นเทคนิคของน้องเค้า อิอิอิ) เราตกลงว่าจะใช้โครงวีว่าบอร์ดสำหรับเคาน์เตอร์ครัว ส่วนตู้ลอยจะเป็นไม้สักเพาะโครง (อยากได้วีว่าบอร์ดด้วยแต่น้องบอกว่ามันทำไม่ได้พี่มันหนัก เดี๋ยวมันหล่นลงมาแย่เลย) หน้าบานเอาแบบเมมเบรนไฮกรอสเพราะเราไม่อยากให้มันมีรอยต่อตามขอบเหมือนเคลือบลามิเนต และหน้าท๊อปตอนแรกน้องบอกว่าใช้แกรนิตแข็งแต่เราอยากได้สีขาว เค้าเลยบอกว่าจะเช็คให้ก่อนแล้วแจ้งกลับ เค้าใช้เวลาทำแบบประมาณเกือบอาทิตย์ แล้วก็ส่งรูปมาให้เราดูเป็นแบบ 3D โดยจะมีรายละเอียดใส่ไว้ว่า ตู้ไหนใส่ฟิตติ้งอะไร หรือเป็นแค่ชั้นเฉย ๆ พอเราได้รูปมาเราก็เลยตัดสินใจทำกับที่นี่ เพราะด้วยเรื่องของการประสานงานกับพนักงานในบริษัทฝ่ายต่าง ๆ เราว่าเค้าประสานงานได้ดี บอกสั่งงานใครไปมันก็ได้รับการส่งต่อข้อมูล คือไม่ใช่แบบว่าหายไปตามเรื่องกับใครไม่ได้ และราคายังค่อนข้างน่าคบ คือไม่ถูกที่สุด ราคากลาง ๆ แต่ไม่รู้สิ สัญชาตญาณบอกว่าโอเค (ตอนจะจ้างเนี่ยก็เสียว ๆ เหมือนกันค่ะ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณชายที่บ้านดุหูชาแน่นอน)
รูปที่เค้าส่งมาให้เราดูประมาณนี้ค่ะ
.
บ้านเราก่อนที่จะทำค่ะ ห้องครัวมันก็เป็นห้องสี่เหลี่ยมที่มีไฟ ท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งต่อไว้แล้ว หน้าต่างเจ้าของเดิมขยายให้กว้างขึ้น ดีตรงแสงเข้าครัวเยอะแต่มันก็ทำให้พื้นที่การทำตู้ของเราหายไปเยอะเลย ก็สวยแต่ใช้งานได้น้อยลง (คือจริง ๆ แต่ก่อนมันมีครัวปูนของโครงการให้มา แต่เจ้าของเค้ารีโนเวทบ้านใหม่ เค้าเลยทุบครัวทิ้ง ตั้งใจว่าจะทำครัวใหม่ แต่เค้าขายให้เราซะก่อนที่ครัวจะเสร็จ ดังนั้นพอเราได้แพลนห้องครัว เราก็จะเอาไปปรึกษาเจ้าของเก่าตลอดเพราะเค้าเป็น Interior Designer ที่ออกแบบบ้านหลังนี้เอง ซึ่งเจ้าของเก่าเค้าก็ใจดีมาก ๆ ค่ะ ให้คำแนะนำเราตลอดเลย เรียกได้ว่าซื้อบ้านแล้ว ก็กลายเป็นเพื่อนเป็นคนรู้จักกัน)
.
.
.
.
ระหว่างทางของการทำครัว ขอแวะ Homepro Fair หน่อย
ระหว่างที่เรากำลังดูและปรับแบบ ก็มีงาน Homepro Fair งานที่ใคร ๆ ก็ต้องไป เพราะข่าวว่าของดี ของถูก เนื่องจากเราพยายามไปขอต่อราคา Smeg (เราจะใช้ทั้งเตาอบ และเตาอินดักชั่น) กับทาง Kitchen Form เค้าเลยบอกว่า พี่ไปดูในงาน Homepro ก่อนได้ครับว่าเค้าลดราคาได้เท่าไหร่ เดี๋ยวผมจะไปคุยให้เค้าลดให้ผมเท่ากับลดให้ เราก็เลยต้องไปงาน Homepro Fair เราไปวันที่สองตอนกลางวันค่ะ ตั้งใจว่ามาเช็คราคาดูลาดเลาก่อน แล้วค่อยมาซื้อวันสุดท้าย ถึงงานปุ๊บพุ่งตรงไปยัง Smeg เพื่อขอราคาเตาอบ ปรากฎรุ่นที่ดูไว้มันเป็นรุ่นเก่า ไม่มีแล้วซะงั้น คืออาจจะค้างสต๊อกอยู่แต่เค้าไม่ค่อยขายแล้ว แถมไปถึงเห็นเตาอินดักชั่นอีกรุ่นก็เกิดกิเลสอีก ดูไปดูมา คุยกับเซลเค้าบอกเราว่า เค้าจะลดให้ 15% เฮ้ยคือดีอะ แถมเปิดแค๊ตตาล๊อคไปมาก็ไปเจอก๊อกน้ำ Zucchetti แบบที่ดึงสายออกมาได้ แบบที่อยากได้มากกกก แต่เห็นราคาแล้วหมื่นกว่าตอนนั้นเลยขอลา แต่งานนี้คุยไปคุยมาได้ราคาพิเศษ เออ คือดีอะ สรุปได้ของมาสามชิ้นในราคาที่ถูกกว่าซื้อจาก Kitchen Form สองชิ้น แถมรุ่นก็อัพขึ้น (เพราะดีลเลอร์เล็ก ๆ Smeg ไม่ให้ราคาไปแข่งกับเจ้าใหญ่นะจ๊ะ และปรกติเค้าก็บอกลดไม่เยอะถ้าไม่ใช่งานลดสิ้นปี แต่เนี่ยเซลมาเอง) คุยกันเรื่องรายละเอียดสินค้าต่าง ๆ นานา เป็นอันนัดแนะว่า เดี๋ยววันสุดท้ายพี่มาจ่ายเงิน แต่ฝากของไว้ก่อนนะ ไว้คนทำครัวเค้าทำแล้วค่อยไปส่ง
ที่งานบูทติดกันมี Teka ซึ่งเราจะซื้อซิ้งล้างจานของเค้า (สาเหตุเพราะเค้ามีรุ่นที่ลึกที่สุดในตลาดคือ 25 นิ้ว จริง ๆ เราอยากได้ Franke มากกว่า แต่รุ่นที่เคยลึก ๆ เค้าไม่สั่งมาขายในเมืองไทยแล้ว เพราะเค้าบอกว่าไม่เห็นค่อยมีคนซื้อเลย เราก็เลยต้องใช้ Teka แถมสามีสั่งมาว่าให้ใช้แบบรุ่นที่ติดใต้ท๊อปเท่านั้น รุ่นที่ไปวางไว้บนท๊อปเฮียแกก็ไม่เอา ก็เลยหายากมากกก ไหนๆ มางาน Homepro เราก็เลยกะว่าเออไปเช็คราคาดีกว่าเผื่อสอยของมาพร้อมกันให้หมดเลย ปรากฎว่าเราต้องรีบออกมาจากบูท Teka แทบไม่ทัน เพราะเค้าเชียร์ให้เราเอารุ่นอื่นที่ตื้นกว่าที่เราอยากได้ (พี่อุตส่าห์บอกความต้องการไปนะ …… ขอมองบนแปร๊บ เท่านั้นไม่พอจะขายสินค้าเราซึ่งโอเคเรารับฟัง……. แต่สาเหตที่ทำให้เราโกรธจนต้องเดินออกเลยคือเค้าดิสเครดิตสินค้าของแบรนด์อื่น ซึ่งเราว่ามันไม่ Professional เรามาเดินซื้อเครื่องครัวไม่ได้จะมานินทาใคร ไม่ว่างกับเรื่องไร้สาระ ถ้าคุณจะขายของ คุณบอกจุดเด่น ข้อดีที่มีมากกว่าคู่แข่ง การใช้งาน จบ ที่เหลือคนซื้อคิดเองได้ว่าของมันเหมาะกับเค้าไหม นอกจากนี้ยังเสนอขายเราตัวโชว์ ซึ่งจริง ๆ ถ้าเป็นซิ้งเราไม่ซีเรียสนะ แต่เค้าไม่มีรุ่นที่เราอยากได้ แต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างเราไม่อยากเสี่ยง แล้วพอเราปฏิเสธไปว่าเราไม่ค่อยซื้อของตัวโชว์เพราะไม่อยากมีปัญหาทีหลัง เค้าก็พูดประมาณว่า เราไม่ฉลาดพอ เอาเงินมาซื้อของแพงทำไม……???? คืออะไรคะ จากที่จะซื้อของเราก็เลิกแล้วก็ตั้งใจว่า สั่ง Kitchen Form ก็ได้ ไม่ง้อ
ระหว่างนั้นก็ไปดู Osama กับ Rigitori หา Rigitori ไม่เจอตั้งใจว่า เดี๋ยวไปโชว์รูมตรงอุดมสุขแล้วกัน พอเดินมาเจอเครื่องอบผ้า SIEMENS เออแวะ เพราะสนใจจะซื้อไปใช้ที่บ้าน ขอข้อมูลก่อน (ถ้าเป็นตาม Homepro เนี่ยไม่กล้าเดินเลย กลัวเซลตามตื้อแบบไม่ให้ข้อมูล) เจ้าหน้าที่ SIEMENS ให้บริการดีมากค่ะ เรารู้เยอะเลยเกี่ยวกับเครื่องอบผ้า และไล่ดูไปถึงเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ทั้ง ๆ ที่บอกเค้าว่ายังไม่มีแพลนจะซื้อเพราะมีแล้วและยังใช้ได้ดีทั้งคู่ แต่เค้าก็แนะนำสินค้าเต็มที่เลย คุยไปคุยมาเลยไปถึงห้องครัว และที่ดูดควัน เค้าก็ยิ้ม ๆ และบอกว่า พี่ครับขอเวลา ขอเสนอสินค้าหน่อย แล้วเค้าก็พาเราไปดู เครื่องดูดควันของ SIEMENS รุ่น LC35S955TH และมีพนักงานที่เค้าใช้ที่บ้านที่ทำอาหารตามสั่งเล็ก ๆ เอารูปให้ดู ว่าการต่อท่อเป็นยังไง ใช้ยังไง (ตอนเราดูรูปนะแบบว่า โฮ เครื่องดูดควันอย่างไฮโซเลยอะ แต่เตาแบบว่าบ้าน ๆ มากกกกกก เราก็เลยซื้อเลย เชื่อสนิท ตกลงเอาอันนี้แหละ ต้องถูกใจสามีแน่นอน (เพราะเฮียอยากได้แบรนด์ยุโรปอยู่แล้ว เป็นเราเองที่ไม่ยอมเพราะกลัวมันไม่ดูด ที่บ้านเก่าเป็นบ้านเช่าที่ดูดฝรั่ง แรงดูดน้อยมากกกก ทำ Steak ทีน้ำมันเขรอะตามพื้นครัวเลย กลัวและขยาดมากกก) แถมราคาในงานทำโปรมาเหลือแค่ 14,900 บาท ไม่แพงอย่างที่คิด กะว่าใช้ไม่ดีฉันยังมีเงินไปเปลี่ยนเป็น Rigitori ได้
และเนื่องจากเราจะซื้อของจาก Smeg และของอื่น ๆ เข้าบ้าน สุดท้ายเราได้ Voucher เงินสด 10,000 บาท ตกลง Hood นี้ได้มาแค่ในราคา 4,900 บาทเอง คือดีงามมากกกกก (ปล. เครื่องดูดควันของ SIEMENS รุ่นที่เราซื้อมาใช้ได้เลยนะ ดูดดี กลิ่นออกหมด แถมมีระบบดูดอากาศให้มันหมุนเวียน มีระบบแบบให้ดูดต่ออีกซักสามนาทีหลังทำอาหารเสร็จและมีระบบทำความสะอาดด้วยค่ะ คือถ้าใครที่จะทำอาหารไทยและอยากได้ที่ดูดควันหน้าตาดี เราว่าลองพิจารณารุ่นนี้ดูค่ะ ราคาน่าคบและคุณภาพใช้ได้เลย)
พอได้ข้อมูลราคาแล้ว ก็เลยมาแจ้งทาง Kitchen Form ว่าขอซื้อเองจาก Homepro Fair เพราะมันถูกกว่า และไม่คิดว่าเค้าจะสามารถลดให้เราได้ (เพราะตอนนี้เราได้ลด 15% ของ Smeg ได้ลดราคาของ SIEMENS แถมได้ Voucher มา 10,000 บาทด้วย) ซึ่งทาง Kitchen Form ก็ไม่ว่าอะไร ทำใบเสนอราคามาให้เราใหม่ โดยตัดเครื่องใช้ไฟฟ้าออก และก๊อกน้ำออก
ในที่สุด การทำครัวก็เริ่มขึ้น
พอทาง Kitchen Form ทำใบเสนอราคาใหม่มาให้ ซึ่งลดพวกค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าและก๊อกน้ำออกแล้ว (ซิ้งเรายังสั่งของเค้าเหมือนเดิม) เราก็โอนเงินมัดจำไปให้ 50% ของยอดทั้งหมดที่ 279,500 บาท แล้วก็รอ โดยเบื้องต้นช่างที่ประสานงานบอกว่ารอประมาณ 30-45 วัน
ระหว่างไม่มีครัวชีวิตรันทดมากกกกก ต้องซื้อข้าวนอกบ้านกิน ลูกก็กินแต่กับข้าวเดิม ๆ ไข่เจียว (แม่เราเจียวจากบ้านเค้ามาส่งให้ทุก ๆ สองสามวัน พร้อมทั้งปลาทูและอาหารบางอย่างที่เก็บได้) แม่บอกให้ไปเอาแก๊สปิคนิคมาทำกับข้าวไปก่อน แต่สามีไม่ยอม กลัวบ้านเลอะ (วันที่ช่างมาทำครัวให้เรา เค้ายังอึ้งว่า บ้านนี้ไม่มีอะไรทำครัวจริง ๆ ) ของทำครัวก็ใส่ลังไว้ตั้งซ้อน ๆ กันไม่กล้าแกะ (แกะแล้วจะไปเก็บที่ไหนหละ)
การเริ่มงานก็มีช้ากว่าที่กำหนดไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็เซ็งนิดหน่อย แต่ไม่มีทางเลือก ณ จุดนี้รอมาเดือนกว่าแล้ว รออีกอาทิตย์คงได้ พอครั้งที่สองช่างก็มาเริ่มงานค่ะ งานโครงสร้างไปได้ค่อนข้างไว แต่ระหว่างทำก็มีปัญหาเพราะหมู่บ้านเค้าเข้มงวดมากว่าห้ามทำงานเกินห้าโมงครึ่ง (ช่วงเย็น) พอซักตอนสี่โมงครึ่งห้าโมง ยามก็ขี่จักรยานมาเตือนผู้รับเหมาทุกบ้านให้เตรียมของเก็บได้แล้วนะ ดังนั้นระยะเวลาที่บริษัทบอกเราว่าจะต้องติดตั้งสามวัน มันก็เลยกลายเป็นเกือบสิบวัน เพราะช่างมาจากออฟฟิศซึ่งไกลจากบ้านเรามา มาถึงก็กว่าจะเริ่มงานก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ทางช่างขอให้เราไปขออนุญาตนิติฯ ให้ขยายเวลาทำงาน แต่คำตอบคือไม่ได้ค่ะ
ระหว่างที่ช่างทำงาน ไม่เคยได้เฝ้าเลยเพราะต้องทำงานทุกวัน มีแค่แม่บ้านที่ดู ระหว่างนั้นก็จะมีปัญหาจุกจิกเข้ามาตลอดซึ่งเราไม่ได้คาดไว้ และต้องคอยประสานงานกับช่างตลอด เช่น
1.เนื่องจากบ้านที่เราซื้อมามันเป็นบ้านมือสอง เค้ามีการต่อสายไฟ ท่อน้ำต่าง ๆ ไว้แล้ว แต่มันไม่ติดเพราะช่างไฟยังไม่จั๊มไฟ แถมช่างติดตั้งก็หาไม่เจอ เพราะตู้ไฟใหญ่มากกกก (ใหญ่จริงเรายังตกใจว่า บ้านแค่สี่ห้องนอน ตู้ไฟ เซฟทีคัทมันต้องอลังการ แบบว่าแยกไฟแต่ละจุด แต่ละห้องออกจากกัน คือเคยแต่อยู่บ้านที่แบบทุกอย่างรวมหมด ถ้าไฟดับเพราะลัดยกจรเนี่ยก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ที่บ้านนี้ ถ้าไฟไหนลัดวงจร เราสามารถปิดสวิทซ์ใช้งานได้เลย แล้วก็มีไฟใช้สำหรับจุดที่เหลือของบ้าน) พอหาไม่เจอช่างมาถามเรา เราก็ไม่รู้ค่ะ ต้องเดือดร้อน เจ้าของบ้านเก่า คนเดินไฟให้มาดู มาไล่ไฟให้อีก
2.เนื่องจากเราได้เครื่องล้างจานมาจากเจ้าของบ้านเก่า ซึ่งเค้าก็ไม่ค่อยใช้ เราก็ไม่เคยดู คิดมาตลอดว่า ไว้ติดตั้งค่อยให้ช่างมาดู ปรากฎเราพลาดมากกก เพราะพอจะติดตั้งถึงได้รู้ว่าสายไฟต่อเข้าตัวเครื่องขาด แถมท่อน้ำทิ้งก็เสียแบบรั่วเป็นจุด ๆ ตลอดเส้น กว่าช่างจาก SIEMENS จะมาทำให้ เราก็ต้องรอช่าง Kitchen Form มาเก็บงาน (แถมช่าง SIEMENS ทำท่อเรารั่วด้วย น้ำซึม รั่วทั้งวัน เราไปตาม Kitchen Form ให้มาเก็บงานด่วนอันนี้ให้ (คือนัดหลังจากส่งงานแรกอีกสองอาทิตย์มาติดตั้งกระจกเทมเปอร์กันคราบน้ำมัน) เค้าก็ไม่สะดวกมา ผลคือ ต้องเช็ดบ้าน เอาน้ำออก ทั้งวันทั้งคืน อยู่ร่วมสองวัน ถึงหาช่างแถวบ้านมาแก้ไขจุดต่อน้ำเข้าเครื่องและต่อท่อน้ำทิ้งให้ได้ ถ้าเรารู้ว่ามันจะวุ่นวาย เราจะให้ช่างมาเช็คแต่แรกก่อนครัวจะมาติดตั้ง
3.พอครัวใกล้เสร็จ เรากับสามีถึงมานั่งนึกว่าเออ เราน่าจะให้ช่างเค้าปูโมเสคฝั่งหน้าต่างให้ด้วยนะ เพราะมันเปื้อนง่ายมากกกก (บ้านทาสีขาว) และสามีก็เพิ่งมาบอกว่าตรงซิ้งอยากติดน้ำร้อนด้วย เราก็เลยต้องมาสั่งช่างหน้างาน โดยช่างจัดการให้และคิดเพิ่มเติม แต่เครื่องทำน้ำร้อนช่างไปซื้อจากโฮมโปรใกล้บ้านมาให้แทน เพราะเค้าบอกว่าถ้าเบิกมันจะเสียเวลา
4.ชั้นที่ตกลงกันไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน หรืออย่างน้อยก็ตามที่เราคิดไว้ จากรูปเราจะมีเพิ่มชั้น ตรงฝั่งเตา และตรงเคาน์เตอร์บาร์ในบ้านไว้วางของ เราคิดมาตลอดว่า มันจะเป็นไม้ เพราะครัวที่เราสั่งเป็นแบบใช้วีว่าบอร์ดกับไม้ ซึ่งเป็นครัวพรีเมี่ยมสุดของที่บริษัททำให้ลูกค้า แต่ปรากฎว่าชั้นวางของเป็น MDF ซึ่งเราไม่เอาเลย แต่ช่างบอกว่าต้องใช้แบบนี้ เพราะมันมีขาซ่อนไม่งั้นต้องมีขาเหล็กออกมาแล้วภาพรวมจะไม่สวย และนอกจากนี้ช่างจะหุ้มลามิเนตให้ทุกด้านซึ่งก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการดูแลและความแข็งแรง (เราเลยโอเค แต่ให้ติดเฉพาะในบ้าน ในส่วนที่เป็นครัว 1 อันเราขอยกเลิกไป)
5.ทำซิ้งพอใช้ไปได้ 1 วัน มีน้ำซึม จากข้อต่อ พอช่างมาเก็บงานรอบแรก ช่างก็แก้ให้ไม่มีปัญหาอะไร
6.ระหว่างที่ช่างทำงานช่างทำหน้าบานเสียเป็นรอย เหมือนติดสีหรือกาวหรืออะไรซักอย่าง เช็ดแล้วด่าง ช่างก็เปลี่ยนให้เรียบร้อยค่ะ
7.มีการปรับฟิตติ้งหลังจากที่ทำไปแล้ว คือเราสั่งชุดตะแกรงไปแต่พอทำไปแล้ว เราลองใส่ของดูมันใส่ได้น้อย ก็แจ้งช่างให้มาถอดออก โดยตอนแรกช่างไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม และเราไม่ได้ใช้ชุดตะแกรงอยู่แล้ว เราก็เลยคืนเค้าไป (เพราะบ้านเราสามีไม่นิยมเก็บของที่ไม่ใช้ค่ะ) พอเราคืนช่างก็เลยบอกว่างั้นเค้าจะคืนเงินค่าตะแกรงให้ 50% ของราคาชุดนี้ ซึ่งเราก็ว่าโอเคมาก (เพราะเราเป็นคนเปลี่ยนเอง ปรกติเค้าไม่ต้องคืนเงินก็ได้ค่ะ)
จากในรูปจะเห็นว่าตัวตู้ของที่ Kitchen Form ทำ เค้าจะปิดเต็มหมด เราเคยเห็นบางยี่ห้อ (จากบ้านเพื่อนและคนรู้จัก) เค้าจะทำแค่ขอบๆ เพื่อรับน้ำหนักหินหรือหน้าท๊อปเท่านั้น ซึ่งเราว่าแบบนั้นไม่แข็งแรง ตอนแรกก็ลืมเช็คกับช่างว่าเค้าจะทำแบบไหนให้ พอพ่อเราส่งรูปนี้มาให้ดูตอนที่เราอยู่ออฟฟิศ เราก็เลยโล่งใจ
.
.
ความรู้สึกหลังใช้บริการ
1. ก็ต้องบอกว่าค่อนข้างพอใจกับงานค่ะ ไม่งั้นคงไม่เสียเวลามาเขียนรีวิวใน pantip คือเราเขียนเผื่อว่าใครมาหาบริษัทรับทำครัว อย่างน้อยเค้าได้ข้อมูลตรงนี้ไปพิจารณา (เพราะตอนเราหา เหนื่อยมากกกก)
2. ที่ประทับใจต้องบอกว่า ทุกคอมเม้นต์ ข้อติชมที่เรามีกับทีมช่างหรืองานจะได้รับการแก้ไข ซึ่งอันนี้เราพอใจมาก บางบริษัทไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เช่นตอนที่ช่างส่งแบบมาให้ดู เราติงเรื่องเคาน์เตอร์มันแคบไป (เพราะเราทำตรงบาร์เป็นสองชั้น เพื่อไว้นั่งกินข้าว ในกรณีที่ไม่อยากกินที่โต๊ะ) น้องที่รับเรื่องก็ไปแก้แบบปรับให้ จนตอนนี้เคาน์เตอร์คือที่กินข้าวประจำของเราสามคนพ่อแม่ลูก เพราะมันไม่ต้องเก็บเยอะ และปรกติบ้านเราช่วงนี้ก็กินอาหารจานเดียว อาหารฝรั่ง เลยรู้สึกว่ามันสะดวกดี
3. การประสานงานระหว่างกันในบริษัท และความเป็นมืออาชีพเราให้ 9 จาก 10 คะแนน สำหรับพวกธุรกิจรับเหมา ตกแต่ง ทำบ้าน คือเราเคยปรับปรุงบ้านแม่ไปรอบนึง และเห็นเพื่อนหลายคนทำบ้านแล้วโดนเท หรือผู้รับเหมาเคี่ยวมาก ไม่ปรับแก้ ไม่รับผิดชอบงาน ซึ่งเราถือว่า Kitchen Form สอบผ่าน
4. ถามอะไรรู้เรื่อง มีคำอธิบาย มีคำตอบ
5. รับผิดชอบในงานที่ทำใช้ได้เลย อย่างเคสเรื่องการเปลี่ยนหน้าบานให้เรียบร้อย แถมรับปากแล้วไม่ทิ้งงาน จริง ๆ ครัวบ้านเราเสร็จแบบใช้งานได้คร่าว ๆ ก่อน และเพิ่งเสร็จครบสมบูรณ์หลังติดกระจกเทมเปอร์ไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม โดยที่เราจ่ายเงินไปก่อนตั้งแต่ต้นเดือนเมื่อส่งมอบงานครั้งแรก คือเค้าบอกเราว่าเค้าจะกลับมาติดกระจก มาเพิ่มชั้นให้กับช่องที่เล็ก ๆ (ตอนแรกแบบไม่มีชั้นและเราไม่รู้) บริษัทก็รีบส่งคนเข้ามาจัดการให้ จริง ๆ เค้าก็จะเข้ามาดูเครื่องล้างจานที่น้ำมันรั่วให้เราด้วย แต่เรารอไม่ไหว หาช่างแถวหมู่บ้านให้มาช่วยแก้ไขไปก่อน แล้ว Kitchen Form ก็มาเช็คงานให้อีกที ถ้าเป็นบางบริษัท เงินเข้ากระเป๋าเค้าไปแล้ว เค้าก็อาจจะดึงเรื่องได้ แต่ที่ Kitchen Form ไม่เป็นแบบนั้นอะ
6. ข้อนึงที่ดีมากซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าที่อื่นมีหรือเปล่าคือ พอทำเสร็จบริษัทมีเอกสารส่งมอบงาน รับประกันงานครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์ 10 ปี รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการแก้ไข รวมทั้งค่าเดินทางและอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนงานประปา งานไฟ งานติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีระบุรายละเอียดว่ารับผิดชอบอย่างไร ระยะเวลาเท่าไหร่ ตอนที่ได้รับเอกสารมา เรายังงงว่า เออมีด้วย ดีจัง เพราะคนที่ทำครัวแล้วคงไม่อยากมีปัญหา มันทำให้ดูน่าเชื่อถือค่ะ
ปัญหาที่เกิดจากการทำครัว
1. เราดูแบบไม่เคลียร์ คือเรามองผ่าน คิดว่ารอบคอบดีแล้ว ปรากฎ ไม่ละเอียดพอ งานที่ออกมามีอันนึงเราไม่ชอบ 100% คือชอบแต่มันอาจจะดีกว่านี้ได้ แต่ไม่รู้จะโทษใคร ต้องโทษตัวเอง เพราะเราก็คิดว่าพูดกับคนออกแบบ คนวัดหน้างานรู้เรื่องแล้ว จริง ๆ ก็คุยกับเค้ารู้เรื่องแหละ แต่มันมีแค่ช่องเดียวที่สิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เค้าคิดมันไม่เหมือนกัน อะไม่เป็นไร อันนี้เผื่อใครจะทำครัว จะได้ระวังค่ะ
2. บางทีฟิตติ้งอลังการ มันก็ไม่ค่อยช่วยอะไร และเราคิดว่าครัวเล็ก ๆ ไม่ควรมีฟิตติ้งเยอะ ด้วยความที่เราติดกับครัวที่ยุโรปของแม่สามี แต่ลืมข้อจำกัดของพื้นที่ของตัวเอง ปรากฎว่าฟิตติ้งตัวนึงมันใช้งานไม่ได้จริง ประกอบกับแบบของไทยกับของยุโรปพอทำมามันไม่เหมือนกัน (แม้หน้าตาจะคล้ายกันก็ตาม) ผลคือเราต้องเอาออกแล้วเปลี่ยนเป็นชั้นวางของแทน
3. พื้นที่เล็กต้องระวังเรื่องการออกแบบเพื่อให้จัดเก็บได้ดี คือตอนออกแบบ เราก็ไม่ได้บอกน้องที่มาวัดหน้างานว่า เรามีจาน ชาม ช้อน หม้อ ไห อะไรเท่าไหร่ยังไง (ซึ่งเรามีเยอะกว่าคนที่มีครัวขนาดนี้จะมี) ผลคือ ตู้ใส่ของไม่หมด ดีว่าตั้งใจจะยกหลายอย่างให้คนอื่นไป และดีว่าเราเปลี่ยนเตาจากเตาแก๊สเป็น Induction เราเลยต้องยกหม้อ กระทะ หลายใบให้คนอื่นไปเพราะเราใช้ไม่ได้แล้ว เก็บไว้แค่สามสี่ใบเอง ถ้วยชามก็ยกให้แม่ ที่เหลือก็ให้ยามในหมู่บ้าน ให้คนงาน
4. ตอนนี้หลังจากจัดครัวและลองใช้จริงจังมาหนึ่งอาทิตย์ คิดว่าอยากเอาที่ล้างจานออกไปนอกบ้านมากกกก มันเกะกะและมันทำให้พื้นที่เก็บของน้อยลงมากกกก แต่ข้อดีของมันคือ ตอนนี้ไม่ต้องล้างจาน ไม่ต้องมีจานมาตากให้แห้งบนเคาน์เตอร์ ตอนนี้เคาน์เตอร์บ้านเราโล่งมากกกก มีแค่หม้อหุงข้าวที่วางไว้บนเคาน์เตอร์กับพวกตะกร้าหอม กระเทียม มันฝรั่ง อะไรพวกนี้
5. เรื่องระบบไฟฟ้าในบ้านต้องเช็คดีๆ รอบแรกที่ครัวเสร็จ ยังไม่มีการเก็บงาน เราลองใช้ครัวดู โดยใช้ เตาอบ เตาอินดักชั่น ที่ดูดควัน และเปิดแอร์ในบ้านตัวนึง ปรากฎว่าไฟดับค๊า เพราะแอมป์ไม่พอ กว่าจะทำอาหารเสร็จมื้อนั้นทุลักทุเลมาก เนื่องจากเราไม่ได้เช็คระบบให้เรียบร้อยก่อน คือก็คิดเองว่ามันเรียบร้อย (คือเจ้าของบ้านเก่าเค้าก็ทำไว้เรียบร้อยแหละ แต่เนื่องจากช่างติดตั้งและช่างไฟที่มาดูเค้าไม่รู้ระบบทั้งหมด มันก็เลยพันกันยุ่ง) เราก็เลยต้องรบกวนเจ้าของบ้านเดิมไปตามหาช่างที่ทำระบบไว้ ให้เค้ามาดูงานให้ แล้วก็เชื่อมไฟเข้าตามปลั๊กต่าง ๆ ในห้องครัว (มีทั้งหมด 4 จุด)
ปล. อันนี้ขอบ่นส่วนตัวว่าทำไมบ้านสมัยนี้ ครัวเล็กมากกกก อย่างบ้านเรามีสี่ห้องนอน ครัวขนาด 2.7 x 3 เมตร เนี่ย ถือว่าเล็กมากกก หลาย ๆ คนบอกเราว่าให้ต่อเติมแล้วทำครัวไทยข้างนอก แต่เราอยู่กันแค่สามคน ครัวอันเดียวก็พอค่ะ ยิ่งมีหลายที่ยิ่งทำความสะอาดลำบาก (แต่แอบอยากได้ครัวแขนาด 4×5 เมตร หรือใหญ่กว่า ตอนทำอาหารคงฟินกว่านี้ เพราะจะได้มีไอซ์แลนด์)
ต่อไปเป็นรูปครัวที่เสร็จแล้วค๊า
เอาเคาน์เตอร์ที่เชื่อมกับโต๊ะกินข้าวก่อนเลยแล้วกัน เก้าอี้สตูลเป็นของเก่าที่มีอยู่แล้วซื้อจาก IKEA และมันยังใช้งานได้ดี เราก็เลยว่าจะเอามาใช้ที่เคาน์เตอร์เลย โดยตอนที่น้องเค้ามาวัดพื้นที่เราก็ให้เค้าดูว่าเรามีเก้าอี้แบบนี้ ให้เค้าไปออกแบบเคาน์เตอร์มาให้ได้ระดับความสูงกับเก้าอี้
ด้วยความที่บ้านเรา เจ้าของเดิมเค้าแต่งแบบกึ่งโคโลเนียล มันทำให้มีมุม มีบัวยื่นออกมาจากผนังเยอะมาก ซึ่งช่างของ Kitchen Form ก็ทำการเชื่อมต่อได้โอเคค่ะ เรามีถามเจ้าอื่น ๆ นะว่าเค้าจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ เค้าบอกว่าเค้าทำไม่ได้ พองานเสร็จมามันจะไม่เหมือนบิ้วอิน เพราะเค้าเชื่อมต่องานให้ไม่ได้
.
มุมนี้มองออกมาจากในครัวค่ะ หน้าบานเราเลือกแบบเมมเบรนไฮกรอส ข้อดีคือมันจะเคลือบวัสดุหน้าบานเป็นชิ้นเดียวกัน (ให้นึกถึงไอศครีมแมคนัมที่มีช็อคโกแลตเคลือบ มันจะไม่มีรอยต่อเลยซึ่งทำให้ดูแลรักษาง่ายกว่าและงานเนี๊ยบกว่าการติดลามิเนต เพราะการติดลามิเนตจะเกิดมุมรอยต่อของชิ้นงานได้ค่ะ) แต่ข้อจำกัดของการทำแบบนี้ก็คือสีที่มีให้เลือกมันอาจจะไม่หลากหลายเท่าการติดลามิเนต
ฟิตติ้งอันนี้เราก็ชอบมันทำให้เก็บของเข้ามุมได้และหยิบสะดวก อีกอย่างคือหน้าบานของครัวบ้านเราจะไม่มีมือจับเพราะสามีบอกว่าทำความสะอาดยาก เอาแบบเรียบ ๆ ไปเลย ถูถูอย่างเดียวง่ายดี ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายมาก
ต่อมาก็เป็นฝั่งซิ้งและเครื่องล้างจาน จะเห็นว่ามีการใช้โมเสคซึ่งอันนี้เรามาเพิ่มเอาหน้างานค่ะ
มองจากประตูที่ออกจากตัวบ้าน
ก๊อกและซิ้งชอบมาก ใช้งานสะดวก สามีเราตอนแรกเห็นบอกว่า มันออกแบบมาเพื่อ??? พอฮีได้ใช้ ฮีบอกว่าเฮ้ยมันดีมาก ดึงสายปรับฉีดได้ตามทิศทางที่ต้องการ
มาฝั่งเตากันบ้าง
เตาไมโครเวฟนี้ได้มาจากเพื่อนในพันทิป พอดีเค้าโพสต์เกี่ยวกับเตาไมโครเวฟและเราก็คิดอยู่ว่าจะเอาแบบไหนดีมาแทนอันเก่าที่ใช้มานานแล้ว พอดีเค้าขายให้ถูกมากเลยไม่ลังเล ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ตอนได้มายังไม่แกะพลาสติกเลยอะ
ฟิตติ้งด้านนี้คือชอบทุกอัน โดยเฉพาะตู้ดึงที่เป็นชั้น 5 ชั้น มันใช้งานสะดวกมากกก และเก็บของได้เยอะเป็นหมวดหมู่ดีมากค่ะ และเราเลือกที่จะใช้กระจกเทมเปอร์ติดตรงเตาเพื่อห้องกันคราบน้ำมัน เราไม่อยากได้โมเสคหรือกระเบื้องเพราะมันจะมีร่องยาแนวทำให้ทำความสะอาดยาก จริง ๆ ถ้ามีงบอีกเราอยากใช้หินแกรนิตด้วยซ้ำค่ะ แต่พองบจำกัดก็ทำเท่านี้ และเราก็ให้ช่างติดกระจกเทมเปอร์ระหว่างช่องท่อดูดควันกับตู้ลอยด้วย เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด
ภาพรวมสองฝั่ง ถ้าสังเกตตรงฝ้า ช่างจะมีการอุดซิลิโคนให้ตามร่องแล้วยาแนวทับเพื่อป้องกันฝุ่นเข้า คือเราเลือกทำตู้ติดเพดานก็เพราะเราไม่ชอบว่าต้องมาคอยเช็ดฝุ่นหลังตู้เลย มันเป็นงานหนักมาก และเป็นที่หมักหมมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค เราก็เลยทำแบบนี้
.
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์นะคะ และเอาใจช่วยคนที่กำลังทำต่อเติมห้องครัวอยู่ค่ะ เราเข้าใจว่างานมันเยอะและจุกจิกมากกกก หลังจากทำครัวครั้งนี้เราได้ความรู้อีกเยอะเลย ต้องขอบคุณพื่อน ๆ ในนี้ และทีมช่างที่มาทำครัวให้เราค่ะ
ที่มา : Travel Animal