เมื่อเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการทำงาน หรือการเรียน หลายๆ คนก็คงต้องการเติมพลังให้ชีวิตให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ ซึ่งมันก็มีอยู่หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการเติมความหวานให้ชีวิตด้วยขนมหวานนั่นเอง!!
ในบ้าน ชวนเพื่อนๆ มาเติมความวานด้วยเมนู “คัสตาร์ดเค้ก” ซึ่งเป็นสูตรจากคุณ ป้ามารายห์ ที่แอบกระซิบมาว่า “อร่อยจนต้องกินแทนข้าวกันเลย” วิธีทำจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
ส่วนผสม (สำหรับขนาด 3 ปอนด์)
ส่วนคาราเมล
1. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
2. น้ำ 60 กรัม
3. น้ำร้อนจัด 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนคัสตาร์ด
1. ไข่ไก่ 1 ฟอง
2. ไข่แดง 3 ฟอง
3. กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
4. นมข้นจืด 250 กรัม
5. นมข้นหวาน 240 กรัม
6. น้ำตาลทราย 15 กรัม
ส่วนสปันจ์เค้ก
1. ไข่ไก่เบอร์ 2 3 ฟอง
2. น้ำตาลทราบ 80 กรัม
3. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
4. เกลือ 1/4 ช้อนชา
5. สารเสริมคุณภาพ SP หรือโอวาเลต 15 กรัม
6. นมสด 40 กรัม
7. น้ำเปล่า 40 กรัม
8. ผงฟู 1 ช้อนชา
9. แป้งเค้ก 100 กรัม
10. เนยจืดละลาย 80 กรัม
วิธีทำ
1. เริ่มต้นทำคาราเมลโดยตั้งเตาใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงไปในหม้อ ต้มจนน้ำตาลออกเป็นสีน้ำตาลและเริ่มมีกลิ่นไหม้ของน้ำตาลเล็กน้อย จึงเติมน้ำร้อนจัดลงไป หลังจากนั้นเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ กลิ้งคาราเมลให้ทั่วทั้งพิมพ์
2. ทำคัสตาร์ดโดยใส่ไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลา ลงใส่ในชามผสมแล้วใช้ตะกร้อตีจนเข้ากัน หลังจากนั้นเติมนมข้นจืด คนจนเข้ากัน และตามด้วยนมข้นหวาน แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง
3. พอคาราเมลเซตตัวแล้ว ก็กรองคัสตาร์ดลงไปในพิมพ์
4. ทำเค้กเนื้อสปันจ์ด้วยการ ตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ SP และกลิ่นวานิลาจนเขากัน พอเริ่มฟูจะมีสีอ่อนลง หลังจากนั้นค่อยเติมน้ำ ตีต่อจนเข้ากันแล้วเติมนมลงไปตีต่อจนฟูเบาใช้เวลาประมาณ 8-10 นาทีค พอฟูได้ที่แล้วเวลายกหัวตะกร้อขึ้นส่วนผสมหยดจากตะกร้อและนูนบนผิวเค้กโดยไม่จมลง หลังจากนั้นเติมแป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูลงไปตีจนเข้ากัน เช็คดูก้นโถว่ามีแป้งนอนก้นอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ค่อยใส่เนยละลายไปเป็นสาย (เนยละลายให้พักจนอุ่นก่อนนะคะ) ต่อเนื่องไปจนหมด แล้วตีต่ออีกสัก 3-5 นาที หลังจากนั้นเช็คดูก้นโถว่ามีเนยนอนก้นหรือเปล่า ถ้ามีเนยหรือแป้งนอนก้นจะทำให้เค้กเป็นไต
5. เมื่อตีส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันดีแล้วแล้วก็เทใส่พิมพ์ อบบนถาดน้ำร้อน อุณหภูมิ 180 ํ C (ไฟบ้านใครแรงก็เหลือสัก 170 ํ C ก็ได้ค่ะ) เป็นเวลา 60 นาที ไฟบนล่าง หลังจากนั้นอบต่อเฉพาะไฟล่าง อุณหภูมิ 180 ํ C เป็นเวลา 20-30 นาที หรืออาจจะนานกว่านั้น (เช็คว่าสุกหรือไม่โดยการ เอามีดดันเค้กดูด้านข้าง ว่ามีคัสตาร์ดไหลออกมาถือว่ายังไม่สุก แต่ถ้าไม่ไหลก็ถือว่าสุกแล้วค่ะ)
6. หลังจากอบเสร็จ ให้เอาออกจากพิมพ์ทันที จะเอาออกง่ายและหน้าเค้กออกมาสวยงาม โดยใช้มีดปลายแหลม แซะด้านข้างพิมพ์
ที่มา : ป้ามารายห์
Facebook : ครัวป้ามารายห์