สไตล์โบโฮชิค นั้นไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์การแต่งตัวหรือแฟชั่นเท่านั้น แต่มันยังเป็นสไตล์การตกแต่งภายในที่ได้รับความนิยมไม่น้อยอีกด้วย
วันนี้ ในบ้าน ก็จะชวนเพื่อน ๆ ชาวเว็บมาชมไอเดียโฮมออฟฟิศสไตล์โบโฮชิค เป็นตัวอย่างการออกแบบตกแต่งห้องทำงานที่บ้านที่เหมาะสำหรับคนชอบความโปร่งโล่ง ความเป็นธรรมชาติ กับลวดลายของเฟอร์นิเจอร์งานจักสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
1.
2.
ความเป็นมาของการตกแต่งสไตล์โบโฮชิคนั้น เริ่มมาตั้งแต่ยุค 60’s ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบการแต่งตัวของคนยิปซีหรือชาวโบฮีเมียนเข้ากับเหล่าศิลปินฮิปปี้นั่นเอง
3.
และเมื่อมันกลายมาเป็นรูปแบบในการตกแต่งบ้าน ภาพรวมของการตกแต่งสไตล์โบโฮชิคนั้นจึงเน้นความหลากหลายเป็นหลัก ให้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ในบ้านกลางป่า แต่ยังผสมผสานความทันสมัยเอาไว้อยู่
4.
การตกแต่งโฮมออฟฟิศในสไตล์โบโฮชิค จะมีรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์หวาย อุปกรณ์ตกแต่งหวาย ผ้าไหมพรม พรมธรรมชาติ รวมไปถึงของตกแต่งแฮนด์เมดน่ารัก ๆ
เน้นลวดลายที่มีความโค้งมน อ่อนช้อย และลายแบบถัก ที่ชวนให้นึกถึงการแต่งกายของผู้หญิงชนเผ่ายิปซี
5.
รูปแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ในโฮมออฟฟิศสไตล์โบโฮชิค จะยึดแนวคิดความอิสระเป็นหลัก โดยจะเน้นให้องค์ประกอบต่าง ๆ ถูกจัดสรรอย่างโล่ง ๆ เรียบ ๆ
แต่ก็เผยให้เห็นเส้นสายและลวดลายการตกแต่งเยอะ ๆ ซึ่งดูมีรายละเอียดซับซ้อนแต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอิสระโดยปราศจากซื่งความอึดอัด
6.
และเพื่อไม่ให้ลวดลายต่าง ๆ ดูรกสายตา จึงควรคุมโทนโฮมออฟฟิศของคุณด้วยโทนสีธรรมชาติอย่างสีขาวครีมหรือสีน้ำตาล เช่น อาจจะใช้ผนังสีขาวล้วน และใช้พื้นไม้สีน้ำตาล ผสานไปกับของประดับบ้านที่ทำจากเครื่องสาน เป็นต้น
7.
อีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้นไม้ นั่นเอง เพราะสไตล์โบโฮชิคนั้นมีต้นกำเนิดมาจากชนเผ่าที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า
8.
ภายในโฮมออฟฟิศแนวโบโฮชิคจึงต้องมีกระถางต้นไม้อยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระถางแขวน กระถางห้อย หรือแม้แต่ปลูกไม้เลื้อยไปตามผนังห้อง ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายให้กับบรรยากาศการทำงานของคุณด้วย
9.
หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ รักอิสระ และชื่นชอบกลิ่นอายการตกแต่งในสไตล์โบโฮชิค ลองนำไอเดียภาพในวันนี้ไปปรับใช้และต่อยอดกันต่อได้เลยจ้า ^_^
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.
22.
23.
24.
25.
26.
27.
28.
29.
30.
31.
32.
33.
34.
35.
36.
37.
38.
39.
40.
41.
42.
43.
44.
45.
ที่มา : digsdigs .
