ในพื้นที่ๆ มีมลภาวะสูง ละอองฝุ่นผลมีปริมาณสูง อาจจะทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต้องป่วยเป็นโรคแพ้อากาศอย่างรุนแรงได้ ซึ่งคนที่เป็นหนักๆ อาการอาจจะทรุดจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้
Kamal Meattle นักอนุรักษ์ธรรมชาติและนักธุรกิจเจ้าของบริษัทซอฟท์แวร์ชาวอินเดีย ได้ทำการบรรยายผ่านรายการ TedTalk ให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 18 ปีก่อน ตนได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง Delhi ประเทศอินเดีย สภาพอากาศในเมือง Delhi มีมลภาวะสูงมาก ละอองฝุ่นผงมีปริมาณสูง ทำให้ Kamal ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง
แพทย์ประจำตัวจึงได้ทำการตรวจปอดอย่างละเอียด ปรากฎว่า อาการภูมิแพ้ทำให้ปอดทำงานได้เพียง 70% เท่านั้น หากไม่ทำการรักษา อาการจะยิ่งทรุดถึงขั้นเสียชีวิตได้
หลังจากนั้น คุณ Kamal Meattle จึงได้ลงมือหาข้อมูลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพของตัวเอง โดยได้รับคำแนะนำจากสถาบันวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ทั้ง IIT (Indian Institutes of Technology), TERI (The Energy and Resources Institute ) รวมถึง NASA ด้วย
จนในที่สุด เขาก็ได้ค้นพบว่า เราสามารถปรับคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ดีขึ้นได้เพื่อสุขภาพของผู้พักอาศัย ด้วยการปลูกต้นไม้ 3 ประเภท คือ ปาล์มหมาก, ลิ้นมังกร และพลูด่าง
1. ปาล์มหมาก
ปาล์มหมาก (Areca Palm) เป็นพืชที่มีประสิทธิภาพสูงในการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์แล้วแปลงเป็นออกซิเจน เหมาะสำหรับปลูกในห้องนั่งเล่น ห้องโถง หรือห้องที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ควรปลูกปาล์มหมากที่มีความสูงประมาณเท่าหัวไหล่ผู้ใหญ่ จำนวน 4 ต้น/คน หมั่นเช็ดใบให้สะอาด และนำออกรับแดดกลางแจ้งทุกๆ 3-4 เดือน
2. ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกร (Snake Plant, Mother-in-law’s tongue) มีประสิทธิภาพในการปรับคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นออกซิเจนโดยเฉพาะช่วงกลางคืน จึงมักนิยมปลูกในห้องนอน เพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ยามพักผ่อน
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ควรปลูกลิ้นมังกร ที่มีความสูงประมาณเท่าเอวผู้ใหญ่ จำนวน 6-8 ต้น/คน
3. พลูด่าง
พลูด่าง (Devil’s Ivy, Money plant) มีคุณสมบัติขจัด Formaldehyde (ฟอร์มาลีน – น้ำยาอาบศพ) และสารเคมีอื่นๆ ที่ระเหยง่าย (Volatile chemicals) ไม่ว่าจะเป็น สีทาบ้าน ควันบุหรี่ น้ำยาฟอกสี น้ำยาซักแห้ง ฯลฯ
ทั้งนี้ คุณ Kamal Meattle ได้ทำการทดลองปลูกต้นไม้สามประเภทนี้ รวมทั้งหมดเป็นจำนวน 1,200 ต้น ในอาคารเก่าอายุ 20 ปี เนื้อที่ 50,000 ตารางฟุต มีผู้พักอาศัย 300 คน โดยหวังที่จะปรับคุณภาพของอากาศในตัวอาคารให้ดีขึ้น
ซึ่งก็ได้ผลปรากฎว่า ภายในเวลา 10 ชั่วโมง ปริมาณออกซิเจนในระบบเลือดของผู้อาศัยสูงขึ้นถึง 42% และหลังจากทำการทดลองต่อเนื่อง ปรากฎว่า โรคระคายเคืองตาของคนในอาคารนี้ ลดลง 52% โรคระบบทางเดินหายใจ ลดลง 34% โรคปวดศีรษะ ลดลง 24% โรคปอด ลดลง 12% โรคหืดหอบ ลดลง 9%
ช่วงนี้ประเทศไทยเราก็ประสบกับปัญหาฝุ่นพิษในอากาศกันหลายพื้นที่ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ในบ้าน ก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ ชาวเว็บ มาปลูกต้นไม้สามชนิดนี้ไว้ในบ้านกันเยอะๆ นะครับ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของสมาชิกทุกคนในครอบครัว และที่สำคัญฏ็คือ อย่าลืมหมั่นดูแลรดน้ำด้วยนะจ๊ะ ^_^
ที่มา : หมอบ้านบ้าน, tedsummaries .