ถึงแม้ว่าการสร้างบ้านสักหลังจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ก็เป็นความฝันของชาวเว็บ ในบ้าน หลายๆ คน ซึ่งเราควรจะมีการวางแผนที่ดีและรัดกุม เพราะจะช่วยให้เราสามารถทำการก่อสร้างได้อย่างราบรื่น และที่สำคัญ ก็อาจจะช่วยประหยัดงบประมาณในการสร้างไปได้มากทีเดียว
เหมือนกับบ้านของคุณ ธารารักษ์ ที่ได้สร้างเป็นของขวัญปีใหม่ให้พ่อกับแม่อยู่อาศัย เป็นบ้านที่สร้างด้วยงบประมาณเพียงไม่เกิน 600,000 บาทเท่านั้น และดำเนินการเองตั้งแต่วางแผนการเงิน เขียนผังบ้าน หาช่าง รวมไปถึงจัดหาวัสดุอุและปกรณ์ จนได้มาเป็นบ้านชั้นเดียวที่น่ารักมากๆ อยากรู้กันแล้วล่ะสิว่าจะเป็นยังไง ลองมาชมกันได้เลยครับ
[CR] คบ “เด็กน้อย” สร้างบ้านด้วยงบ 600,000 บาท
(โดยคุณ ธารารักษ์)
ความตั้งใจที่อยากจะทำบ้านหลังนี้ก็เพื่อพ่อแม่ค่ะ หลังจากเริ่มทำงานก็มีความคิดที่อยากจะทำบ้านให้พ่อกับแม่ซักหลัง แวบแรกของความคิดคือการ รีโนเวทบ้านเดิมที่มีอยู่ให้ดูใหม่ขึ้น เพราะพ่อกับแม่เขาเป็นห่วงกลัวเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ก็เลยให้แค่รีโนเวทก็พอ งบประมาณ 1-2 แสน ไม่ต้องกู้ ใช้เงินเก็บของตัวเอง แต่ด้วยความเป็นเด็กดื้ออยากรู้อยากลอง เราวางงบประมาณไว้เลยที่ 800000 บาท และเลือกที่จะกู้กับแบงค์ เราเลือกกู้กับออมสินค่ะ เพราะรู้จักพี่ๆเป็นการส่วนตัวเคยเป็นเด็กฝึกงานสมัยเรียนอยู่มหาลัยและพี่ๆก็ให้ความช่วยเหลือแนะนำดีมาตลอด
เริ่มเขียนแบบค่ะ คือเขียนแบบก็อารมเด็กน้อยมากค่ะ จัดการวาดใส่กระดาษเลยค่ะ แผนผังบ้านตัวเลขที่เขียนๆคือกะๆ เอานะคะ
คือ การยื่นกู้กับธนาคาร เอกสารจะต้องเป็นทางการนิดนึงค่ะ เราก็เลยเลือกไปปรึกษาพี่แถวบ้าน ให้เขาช่วยเขียนแบบที่เป็นทางการและสามารถใช้ยื่นธนาคารได้ พี่เขาคิดค่าแบบ 5,000 บาทค่ะ แต่สุดท้ายเขารับเงินเราแค่ 3,000 บาทค่ะ ราคามิตรภาพคนบ้านเดียวกัน ^^ แบบที่เป็นทางการมีประมาณ 20 แผ่น อันนี้เอาเฉพาะที่เป็นหลัก ๆ มาให้ดูค่ะ (ช่างต่างจากภาพวาดฝีมือเราข้างบนเหลือเกิน 555)
ระหว่างยื่นเอกสาร ยื่นแบงก์และรอการอนุมัติ เราก็ออกตามหาช่างก็ได้รับคำแนะนำแบบปากต่อปากได้ช่างในตำบลเดียวกันค่ะ คนแถว ๆ นั้นเขาแนะนำว่าช่างคนนี้ทำงานโอเค ทำงานไว จริง ๆ ตั้งใจจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2558 ให้แล้วเสร็จสิ้นปี 2558 เป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ให้พ่อกับแม่ค่ะ แต่ด้วยปัญหาหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องเอกสาร เรื่องการหาช่าง เพราะตัวเราเองทำงานอยู่ชลบุรีแต่ก็ต้องเดินทางไปน่านบ่อย ๆ เพราะบ้านที่เราจะสร้างอยู่ที่น่านค่ะ ช่วงนั้นวุ่นวายมาก สรุปเลื่อนมาเป็นเดือนมกราคม ปี 2559 แทนค่ะ ช่างพร้อมช่วงนั้นด้วย เราตกลงราคากับช่างที่ค่าแรง 200,000 บาท ส่วนอุปกรณ์เราซื้อเองเพราะช่างกลัวไม่ถูกใจ ตัดปัญหาเรื่องคุณภาพของด้วยแหละ แต่ราคานี้ตัดเรื่องทำฝ้าเพดานกับเรื่องไฟออกนะคะ เพราะส่วนนี้ให้ญาติทำให้
ทิศตะวันตก ขวามือถ้าเราอยู่หน้าบ้านมองมาเพราะบ้านเราหันหน้าไปทางทิศเหนือ (ศิลปะเด็กอีกตามเคยค่ะ) เราอยากได้บ้านแบบไหนก็วาดใส่กระดาษเลย เราวาดภาพไม่เก่งอาศัยวาดตามแบบที่ช่างเขียนแบบไว้ให้แล้ว และนำมาปรับมาเป็นแบบที่เราต้องการ
ทิศตะวันออก (ด้านซ้ายมือมองจากหน้าบ้าน)
หน้าบ้านและหลังบ้าน วาดแบบภาษาเด็ก ๆ มาก (ศิลปะเด็กการเงิน 555)
เริ่มเรื่องการก่อสร้างค่ะ วันที่ 18 มกราคม 2559 ทีมงานช่างระดมลูกน้องมาทั้งกองทัพ รวมพลกันมากว่า 15 ชีวิตเพื่อสร้างบ้านให้เด็กน้อย (ดูยิ่งใหญ่ 555) เริ่มจากการรื้อบ้านเดิมออกก่อนค่ะ ทั้งรื้อหลังคาและทุบเลยใช้เวลาแค่ 2 วัน บ้านเหลือแต่เสา 8 ต้น บ้านเดิมน่าจะกว้าง 6.8 เมตร ยาว 12 เมตร
วันที่ 20 มกราคม 2559 เริ่มจากส่วนงานโครงสร้างก่อนเลยค่ะ ช่างเริ่มเทคาน เทเสาเพิ่มเติม อีก 9 ต้น ฝั่งตะวันออก 3 ต้น หลังบ้าน 3 ต้น และหน้าบ้านอีก 3 ต้น ใช้เวลา 3 วัน ความเร็วช่างยิ่งกว่า 4G อีก พอเสร็จเราก็ให้ทางธนาคารมาตรวจรับเงินงวดแรกมาหมุนเลยค่ะ
หลังจากเทเสาก็เป็นโครงหลังคาต่อค่ะ เราใช้ไม้จากบ้านเดิมที่สภาพยังใช้ได้แต่ได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ เราเลยต้องซื้อเหล็กมาเสริมทัพ
วันที่ 23 มกราคม 2559 หลังจากงานโครงสร้างหลังคาเสร็จแล้ว ช่างก็ไม่รีรอ รีบก่อผนังต่อเลย เราเลือกใช้อิฐบล็อกนะเพราะบ้านเดิมก็ใช้อิฐบล็อก อายุใช้งานมา 10 กว่าปี ก็ไม่มีปัญหาว่ามันจะพังอะไร เราไม่ได้รับน้ำหนักอะไรมากด้วย แล้วก็ประหยัดสตางค์อีกต่างหาก (ก่อไวด้วย)
สำหรับวงกบและหน้าต่างเราเลือกใช้ของเก่าค่ะ เพราะเป็นไม้สักและมันยังสามารถใช้ได้อยู่ ช่างก็เอามาปัด ๆ ขัด ๆ เท่านี้ก็ใช้ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องซื้อไม้ใหม่ เซฟตังค์ได้อีกเยอะเลย ส่วนประตูก็ซื้อเพิ่มเติมบ้าง เพราะประตูเก่ามีไม่พอค่ะ
ตำแหน่งหน้าต่างและประตูจะใส่จุดไหนบ้าง เราก็ใช้วิธีวาดใส่กระดาษให้เหมือนเดิมเลย พอวาดเสร็จก็ส่งไลน์ไปให้ช่าง
ระหว่างช่างก่อผนังก็มาถมดินไปด้วย บ้านเดิมฝั่งซ้ายสูงจากพื้น 40 เซนติเมตร ใช้ฐานเดิมและถมฝั่งขวาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยให้พื้นอยู่ระดับเดียวกัน
ส่วนสีหลังคาเราเลือกสีเขียวบางจาก เนื่องจากเราอยู่ชลบุรีก็เลยต้องพึ่งช่างในการสั่งของให้ เพราะช่างเขามีประสบการณ์และรู้จักร้านค่อนข้างเยอะ เราเลยเชื่อใจช่างให้เป็นคนเลือกให้ แต่แม่เป็นผู้ช่วยเรื่องเก็บตังค์จ่ายธนาคาร เราก็ทำหน้าที่วางแผนการใช้เงินและการซื้อของเพื่อไม่ให้เงินช็อต (อันนี้ใช้ความรู้เด็กการเงินที่เรียนมานิดนึง) เราส่งสีหลังคาให้ช่างผ่านทางไลน์ (โชคดีช่างเล่นไลน์ด้วยคุยงานสบายเลย)
หลังคาเราเลือกหลังคาเมทัลชีท เหตุผลคือ ประหยัดตังค์ ติดตั้งง่าย รวดเร็ว ก็มีคนบอกว่าเวลาฝนตกมันจะเสียงดังนะ แต่เราคิดว่าฤดูฝนมันไม่ได้มีทั้งปี ฟังเสียงฝนตกลงบนหลังคาสังกะสีบางทีมันก็คลาสสิกดีนะ ได้อารมณ์บ้านนอกเลย แบบโครงหลังคาเอาหน้าจั่วธรรมดาทั่วไป ไม่ซีเรียสมาก
แต่ในขณะที่งานกำลังดำเนินการไปด้วยดี แต่เกิดมรสุมลมหนาวทั้งฝนทั้งหนาวทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย น่านเราเจอทั้งหนาวและฝนตกหนัก แทบจะไม่ได้ออกจากกองไฟและผ้าห่มเลย ทุกคนนอนซุกใต้ผ้าห่มกันหมด ช่างก็เช่นกัน
พอฝนหยุดตกแม้ว่าอากาศจะยังคงหนาวเย็นอยู่บ้าง ช่างเราก็ไม่ยอมถอยลุยกับงานมุงหลังคาต่อเลย ระหว่างทีมช่างมุงหลังคา ก็มีทีมงานตีหน้าจั่วไปด้วย อันนี้ใช้ไม้เฌอร่า ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหน้ากว้าง 8 นิ้วจ้า (ความรู้ไม่ค่อยมี ไม่หน้ากว้าง 8 นิ้ว ก็หน้ากว้าง 4 นิ้วนี่แหละ ภาษาช่าง)
หลังคาช่างไปสั่งไว้ แล้วทางร้านก็เอามาส่งให้ที่บ้าน เก็บตังค์ปลายทางจ้า วันที่ 28 มกราคม 2559 ช่างเริ่มมุงหลังคาใช้เวลา 1 วันเสร็จ (นี่คือข้อดีขอเมทัลชีทเลยค่ะมุงเสร็จไวมาก) แล้วก็ต่อด้วยการเทพื้น
วันที่ 30 มกราคม 2559 เจ้าของบ้านอยู่น่านแล้วจ้า สภาพอากาศตอนนั้นยังหนาวอยู่เลย อุณหภูมิประมาณ 12 องศาเซลเซียส ไม่รีรอถึงบ้านก็กินข้าวเช้าเสร็จ เราอาบน้ำแต่งตัวออกไปซื้ออุปกรณ์กับช่างเลยทันที ถึงหมอกจะหนา อากาศจะหนาวเราไม่หวั่น ลุย
เราจำเป็นต้องมาดูบ้านแบบเร่งด่วนเพราะ ช่างทำไวมาก งานต้องเดินต่อ เราเลยต้องมาซื้อของหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุขภัณฑ์ ประตู เลือกของ เลือกวัสดุ บลา ๆ ๆ รู้สึกเหนื่อยมากค่ะ นั่งรถ 12 ชั่วโมง พอวันอาทิตย์ก็ต้องนั่งรถกลับอีก 12 ชั่วโมง เพื่อไปทำงานวันจันทร์ ลางานไม่ได้ค่ะช่วงนั้น งานเยอะมาก เราต้องแบ่งเวลาทั้งเรื่องงานและเรื่องบ้านให้ถูก
เราไปซื้อของที่ โกลบอลเฮ้าส์น่านค่ะ เพราะเป็นร้านวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองน่านแล้ว แต่การบริการของพนักงานที่น่านสุดยอดมากเลยค่ะ พนักงานต้อนรับด้วยรอยยิ้มและให้คำแนะนำอย่างดี ปกติแล้วเห็นเด็กเดินไปซื้อของเขาก็คิดว่าไม่มีตังค์หรอก แต่ที่นี่ไม่เลย เราอยากรู้อะไรเขาตอบให้หมดค่ะ ของบางอย่างเราก็ใส่รถช่างกลับเลย แต่บางอย่างชิ้นใหญ่และยังไม่ได้ใช้ก็สั่งไว้แล้วให้เขาไปส่งทีหลัง
เราพยายามใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดโดยการไปเลือกซื้อของให้ได้มากที่สุด บางอย่างเลือกไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ก็บอกช่างไว้ (ช่างใจดีมากแนะนำเราดีมาก) สงสัยจะสงสารเด็กน้อยหลาย ๆ อย่างที่เราสั่งซื้อไว้ ช่างก็เอารถไปขนมาเองเลย เพราะช่างรับงานทำบ้านหลังอื่นด้วยก็เลยวิ่งไปเอาของบ่อย ถือว่าเป็นโชคดีของเรามากที่ได้ช่างดี ซื่อสัตย์ ไม่โกง แถมช่วยเหลือเสมือนเป็นบ้านของตัวเองเลย อันนี้ประทับใจสุด ๆ ค่ะ
นี่คือรูปบางส่วนของของที่ไปซื้อมา
กระเบื้องปูพื้นหน้าบ้าน เราเลือกที่เป็นลายไม้ค่ะ
กระเบื้องในบ้านก็เป็นลายไม้ แต่สีจะสว่างกว่าทำให้บ้านดูกว้างขึ้น
กระเบื้องห้องครัวก็เป็นลายไม้เหมือนกัน แต่เน้นสีเข้มหน่อยเพราะอยู่ห้องครัวกลัวมันเปื้อนค่ะ
กระเบื้องห้องน้ำเราเลือกมา 2 แบบค่ะ ทั้งปูพื้นกับปูผนังห้องน้ำ
ไปบ้านรอบนี้ก็แอบออกไปเดิน ๆ ดูสักหน่อย จะได้มาหาไอเดียตกแต่งแต่ละส่วนได้ เจอแล้วมีเสาอยู่กลางบ้านอยู่ต้นหนึ่ง คิดในใจถ้าเอาออกได้ห้องโถงคงจะกว้างน่าดู แอบสะกิดถามช่างค่ะ
เรา : ช่างหนูอยากเอาเสาที่อยู่ตรงกลางบ้านออกค่ะ ช่างพอจะทำได้รึเปล่าคะ ?
น้องชายช่าง : ทำได้ ใช้แนวคิดเหมือนเขาทำโรงยิมสนามฟุตบอล ใช้เหล็กมาเชื่อมแล้วดึง…แล้วก็ต่อด้วยภาษาช่างคุยกัน สรุปบอกเราว่าทำได้ ให้ไปซื้อเหล็กขนาด 4×2 นิ้วมา แล้วเดี๋ยวช่างจะทำให้ แอบดีใจเบา ๆ (น้องชายช่างคือผู้ช่วยช่างอีกคนที่ใจดีสุด ๆ เหมือนกันค่ะ ใจดีทั้งครอบครัวเลยค่ะ)
อันนี้คือเอาเสาที่อยู่กลางบ้านออกแล้ว เย้ ๆ ๆ ^^ (รูปต้องสังเกตนะคะ ตอนนั้นถ่ายช่วงเย็น มืด ๆ นิดนึง)
ไปรอบนี้คุยกับช่างไฟกับฝ้าเพดานด้วยค่ะ เราวางผังไฟเอง วาดแบบฝ้าเพดานเอง ความรู้ไม่มีค่ะ จินตนาการล้วน ๆ ก็มาจากการเดินดูตามโครงการบ้าน ไอเดียจากพันทิปที่คนอื่น ๆ เขาแชร์ไว้ รวมถึงตามเว็บไซต์ต่าง ๆ สเต็ปเดิมเลยค่ะ อยากได้อะไรก็ใช้ศิลปะเด็กวาดใส่กระดาษเลย แต่ช่างก็เข้าใจสิ่งที่เราสื่อนะคะ เราให้ช่างเดินไฟแบบใช้ท่อฝังเข้าไปในผนังบ้านเลย เพราะบ้านสมัยนี้นิยมฝังท่อไฟในผนังกัน ดูสะอาดตาด้วยค่ะ
ป.ล. อันนี้ที่เราไปบ้านมันดูมืด ๆ แล้วโดนติมา เลยประชดกลับโดยการติดไฟมันเยอะ ๆ ไปเลยค่ะ จะได้สว่าง ๆ สยบคำติ 555 (อารมณ์เด็กน้อยล้วน ๆ) ติดไปก็ไม่เสียหาย ไม่ได้ใช้เราก็ไม่เปิด เผื่อมีความจำเป็นต้องใช้ก็ค่อยเปิดก็ได้
ส่วนวันที่ 31 มกราคม 2559 เราต้องเดินทางกลับไปทำงานต่อแล้ว ใจอยู่น่านแต่งานอยู่ชลบุรี เดี๋ยวกลับมาดูใหม่นะ อันนี้เราก็บอกให้ธนาคารมาตรวจงวด 2 เลยนะคะ พี่ ๆ ธนาคารออมสินดูแลเราดีมาก บริการไว จ่ายเงินไว ทำให้เงินเราไม่ช็อต
ตัวอย่าง การทำบัญชีแบบฉบับเด็กน้อย บางคนถามว่าเราบริหารเงินยังไง เราใช้วิธีเด็กน้อยตามเคยเลยก็ใช้โปรแกรมเอ็กเซลนี่แหละ แต่ละวันซื้ออะไรไปบ้าง ร้านไหน จำนวนเท่าไร บางอย่างดูไว้เฉย ๆ ยังไม่ต้องซื้อนะคะ พยายามคุยกับช่างเรื่องซื้อวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ก่อน อันไหนยังไม่ได้ใช้ก็ยังไม่ต้องรีบซื้อมาเดี๋ยวเงินช็อต
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 เริ่มจะติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ณ เวลานั้นงานก็วุ่นวาย ช่างถามจะติดตำแหน่งไหน เลยวาดภาพแบบเด็กไปให้เลยค่ะ (ช่างดูออกอยู่นะ)
ป.ล. วงกลมคืออ่างล้างหน้า ติ่ง ๆ คือฝักบัว สี่เหลี่ยมคือประตูทางเข้า 555
วันที่ 3 มกราคม 2559 หลังจากก่อผนังเสร็จก็เริ่มงานฉาบ ช่วงนี้ลูกน้องช่างจะลดลงค่ะ เพราะช่างรับงานอีกหลังหนึ่งไว้ เลยต้องแบ่งลูกน้องไป ทำให้ความเร็ว 4G ลดลงนิดนึง แต่งานก็ยังคงเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ถือว่าเร็วอยู่ค่ะ
ช่องประตูที่จะเดินไปห้องครัว ช่างใจดีทำให้เป็นโค้ง ๆ ดูมีมิติขึ้นมานิดนึงจะได้ดูแล้วไม่น่าเบื่อ
แล้วก็ต่อด้วยช่างทำฝ้าเพดานค่ะ ช่วงนี้เป็นงานฝ้าเพดานเราใช้แผ่นยิปซั่มแผ่นใหญ่เลยค่ะ ไม่มีเหตุผลดู ๆ จากอินเทอร์เน็ตเช่นเดิม แต่เรามีเกร็ดความรู้นิดนึง ถ้าใช้ยิปซั่มแผ่นใหญ่แบบนี้ระยะห่างระหว่างสกรูที่ใช้ยิงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ถือว่าเหมาะสมค่ะ โครงการบ้านส่วนใหญ่จะยิง 60 เซนติเมตร ซึ่งระยะยาวจะโก่งเพราะมันหนัก (มีผู้รู้ด้านอสังหาริมทรัพย์แนะนำมาอีกที แอบจำมาแล้วให้ช่างยิงสกรูที่ระยะ 30 เซนติเมตร)
ช่วงนี้เป็นช่างอีกคนหนึ่งที่เป็นญาติกัน เขามาทำฝ้าเพดานกับเดินสายไฟให้ค่ะ ค่าจ้างราคาญาติพี่น้องคิดที่ 11,000 บาท จริง ๆ แล้วเรียกมา 15,000 บาท แต่เราต่อรองราคาญาติมิตร อิอิ เลยลดเหลือ 11,000 บาท แต่ถ้าผลงานออกมาดี เราก็จะเพิ่มตังค์ให้เหมือนกัน
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 งานไฟและฝ้าเพดานเริ่มแล้วเสร็จ ช่างทีมเดิมกลับมาลุยเรื่องการปูกระเบื้องต่อ แต่ความเร็วจะไม่ใช่ 4G เหมือนตอนแรกแล้วค่ะ เพราะช่างมีน้อยลงเนื่องจากต้องระดมไปบ้านอีกหลัง เพราะเป็นงานโครงสร้างต้องใช้คนเยอะเราก็ไม่รีบค่ะ เวลาแค่ 1 เดือนผ่านไปได้ขนาดนี้ก็เจ๋งสุด ๆ แล้ว ก็ตามเดิมธนาคารมาตรวจรอบที่ 3 พร้อมกับอนุมัติเงินให้เราไวระดับ 4G ไม่แพ้ช่างเลยค่ะ ช่างสำคัญมาก ธนาคารก็สำคัญมากเช่นกันนะคะ ถ้าธนาคารมาตรวจช้า การอนุมัติช้า เงินเราก็จะช็อตได้นะคะ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 มาถึงตอนนี้เราก็เจอปัญหาเข้าจนได้ บานซิงค์ที่เราสั่งไว้ตอนไปบ้านครั้งนั้น ผ่านไปเกือบเดือนยังไม่ได้ของ ช่างเข้าไปถามให้ที่สาขา บอกว่าจะได้ของประมาณกลางเดือนมีนาคม เราเลยโทรถามที่โกลบอลเฮ้าส์สำนักงานใหญ่เลยค่ะ เขาก็รับเรื่องและช่วยตามให้ เราตัดสินใจรอ ช่างก็ไปทำงานส่วนอื่นไปก่อนเหลือเรื่องก่อเคาน์เตอร์หลังบ้านไว้
ป.ล. เป็นการสั่งแบบพิเศษต้องใช้เวลา อีกอย่างเป็นของที่อยู่ในโปรโมชั่นลดราคาด้วย คนอาจจะสั่งเยอะทำให้บริษัทผลิตไม่ทัน
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เราลากลับบ้านไปดูความคืบหน้าอีกครั้ง เพราะช่วงนี้เริ่มจะตกแต่งแล้ว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ สีทาบ้าน ก๊อกน้ำ โคมไฟ พวกของสวยงามจะต้องซื้อมาเตรียมไว้แล้ว ที่เดิมค่ะคือโกลบอลเฮ้าส์ รอบนี้มาเลือกดูพวกโคมไฟและหลอดไฟ เราเลยไปถามพนักงานเรื่องความคืบหน้าบานซิงค์แต่ก็ไม่ได้ (พนักงานตอบคำถามดีมากค่ะ เราก็เข้าใจเขาต้องการขายให้ลูกค้าแหละ แต่สินค้ามันไม่มีจริง ๆ อันนี้เข้าใจอารมณ์เลย เพราะเราทำงานเป็นจัดซื้อ การที่เราไม่มีสินค้าไม่ใช่ความผิดของพนักงานหรือโกลบอลเฮ้าส์เพียงอย่างเดียว อาจจะด้วยปัจจัยหลาย ๆ ที่ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันทีต่อความต้องการลูกค้า (วิญญาณความเป็นจัดซื้อก็มา 555) เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็นสินค้าที่มีสต็อกแทน เพราะบ้านทั้งหลังต้องมารอบานซิงค์ ถ้าไม่มีบานซิงค์ทำเคาน์เตอร์ก็จะปูพื้นกระเบื้องไม่ได้ เปลี่ยนก็เปลี่ยนเลยตัดสินใจโทรหาช่างใหญ่ให้เอาบิลมาเปลี่ยน ช่างก็แนะนำรุ่นอื่นให้แทน แถมยังบอกเราว่าอยากได้สีอะไร ช่างทำให้ก็ได้ (ช่างใจดีอีกตามเคย) จัดไป ลืมถ่ายรูปมาขอประทานอภัยนะคะ
เราใช้โคมไฟดาวน์ไลท์ขนาด 3.5 นิ้ว หลอดไฟ LED ความรู้ไม่มี ความดื้อเท่านั้น อยากได้อะไร ชอบอะไรก็ซื้อเลย เลือกโคมดาวน์ไลท์มา 3 แบบค่ะ เพราะว่าจะได้ดูไม่เบื่อ (จริง ๆ แล้วก็ไม่มีใครแหงนขึ้นไปมองหรอกมั้ง) ราคาเท่ากันหนิ เอามาทุกแบบเลยแล้วกัน ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ช่างไฟเดินสายไฟ สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ อะไรทำนองนี้ค่ะ ระหว่างนี้ช่างต้องใช้คนไปบ้านอีกหลังหนึ่ง ทำให้บ้านเราหยุดชะงักอยู่พักหนึ่งประมาณ 10 กว่าวันที่ช่างไม่ได้เข้ามาทำงานเพิ่มเติม มีก็แต่ช่างทำฝ้าเพดานกับระบบไฟค่ะ
วันที่ 7 มีนาคม 2559 ช่างเริ่มกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งค่ะ รอบนี้เริ่มที่เคาน์เตอร์ครัวก่อนเลยหลังจากที่เราซื้อบานซิงค์แบบใหม่มา แต่ปัญหาคือยังไม่ได้ซื้อกระเบื้องที่จะใช้ปูเคาน์เตอร์ แถมยังลืมซื้อกระเบื้องผนังห้องครัวด้วย เราเลือกกระเบื้องเคาน์เตอร์สีดำไว้ค่ะ แต่พอวันที่จะต้องใช้ของดันมาหมด !!! เอาละสิ…จังหวะเร่งด่วน ของหมด สั่งหรอ ? ไม่นะ เดี๋ยวนานเหมือนบานซิงค์อีก (คิดในใจนี่ฉันต้องเปลี่ยนแบบอีกสินะ) เพื่องานที่เดินหน้าและไม่รอก็คิดแบบอื่นเลยแล้วกัน ณ ตอนนี้ ผนังปูนเปลือยขัดมันก็ได้ กำลังฮิต ๆ ส่วนกระเบื้องก็ต้องเป็นสีโทนเดียวกับผนังปูนเปลือย สรุปได้ออกมาเป็นแบบนี้ (คิดไวทำไว)
ป.ล. สังเกตสีของบานซิงค์นะคะ ตรงกลางคือรุ่นที่เราสั่งตอนแรกได้มาแค่อันเดียว ที่เหลือเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นแล้วช่างก็ทำสีให้เป็นสีนี้ ไม่เป็นไรได้หมดแบบนี้ก็เจ๋งดี
โซนห้องน้ำจะรก ๆ หน่อยนะคะช่างกำลังทำ
ห้องน้ำจริง ๆ แล้วเราต้องการให้ปูกระเบื้องแนวขวาง แต่วันนั้นช่างใหญ่ไม่ได้มาดูงาน ลูกน้องเลยจัดเป็นแนวตั้งมาเลยจ้า ไม่เป็นไรค่ะไม่ว่ากัน เน้นการใช้ประโยชน์มากกว่า
วันที่ 8 มีนาคม 2559 เริ่มจะเป็นงานตกแต่งงวดสุดท้ายแล้วจ้า ความคืบหน้าประมาณ 80% วันนี้ช่างสีเริ่มเข้ามาแล้วรวมถึงช่างใหญ่ก็ระดมลูกน้องเข้ามาอีกครั้ง กำหนดการที่จะทำบุญบ้านใหม่คือ วันที่ 19 มีนาคม 2559 (อันนี้เป็นวันที่เราสะดวกที่จะลางานกลับมาบ้าน ประกอบกับเป็นข้างขึ้นเดือน 6 ของภาคเหนือ) ช่างก็โอเคสำหรับการเก็บงานส่วนที่เหลืออีก 10 วัน
ส่วนการตกแต่งด้านนอก รูปนี้ก็ใช้ศิลปะเด็กวาดไว้ 555 อยากได้อะไรก็เขียน ๆ ใส่เข้าไป
ผนังหน้าบ้านและผนังทางทิศตะวันตก (ขวามือ) เราบุผนังด้วยคอนวูดรุ่น G1 รุ่นนี้จะมีร่องตรงกลาง 1 ร่อง (ซื้อที่โกลบอลเฮ้าส์)
หน้าบ้านตรงระเบียงเราใช้ไม้ลูกกรงและข้างบนตั้งใจจะใส่ระแนง
ส่วนหลังบ้านเราใช้เฌอร่าตีระแนง
ส่วนทิศตะวันออกไม่ทำอะไร เพราะพื้นที่ค่อนข้างแคบและหลบมุม เราเลยทาสีขาวธรรมดา พื้นที่ว่าง ๆ เอาไว้ให้แม่ปลูกผักสวนครัว (อนาคตจะทำเป็นมุมนั่งเล่นหาไอเดียก่อนนะ)
ส่วนขอบล่างความคิดครั้งแรกจะใช้เป็นหินบุผนัง แต่ช่างแนะนำให้ใช้กระเบื้องเพราะดูแลง่ายกว่า เราเลยใช้กระเบื้องลายอิฐแทนก็แอบเนียน ๆ นะคะ ประหยัดตังค์ด้วย
เรื่องฝ้าเพดานและหลอดไฟในบ้าน สีทุกอย่างก็เริ่มโอเคแล้วค่ะ ตอนแรกคาดว่าจะเป็นสีขาวแต่ช่างบอกว่ามันจืดไป เราเลยจัดสีฟ้าสีเดียวกับห้องนอนเลยค่ะ
โคมไฟบางจุดได้ไอเดียมาจากเพจบ้านไร่ไออรุณ เราก็ไปหาซื้อมาติดบ้าง ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียงอยู่นะ
วันที่ 10 มีนาคม 2559 การตกแต่งกำลังดำเนินการไปด้วยดี ปัญหาก็บังเกิด เมื่อคอนวูดรุ่น G1 ที่โกลบอลเฮ้าส์มีสต็อกแค่ 45 แผ่น บุผนังแล้วไม่พอ ขาดอีก 24 แผ่น งานเข้าแล้ว ตอนนั้นสวมวิญญาณความเป็นจัดซื้อพยายามโทรไปเช็กตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วทั้งจังหวัดน่าน บางร้านมีสต็อกคอนวูดรุ่น G0 และ G2 แต่ G1 ไม่มี เราเช็กไปที่ตัวแทนจำหน่ายคอนวูดที่จังหวัดพะเยา ทางร้านมีของค่ะ แต่ติดปัญหาเรื่องการจัดส่งไม่มีรถมาส่งที่น่าน เข้าสู่โหมดเครียด คุยกับช่างว่าถ้าหาไม่ได้จริง ก็คงต้องใช้รุ่น G2 แทน รุ่นนี้ก็หน้ากว้าง 8 นิ้ว แต่มี 3 ร่อง มันจะเข้ากันได้ยังไง ฮือ ๆ ๆ เด็กน้อยเริ่มร้องไห้หนักมาก เครียดจัด
วันที่ 11 มีนาคม 2559 ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจเพราะต้องหาให้ได้ คราวนี้โทรเข้าคอนวูดสำนักงานใหญ่เลยค่ะ เบอร์ 1732 ให้ทางสำนักใหญ่ช่วยหาให้เอาที่อยู่ใกล้จังหวัดน่านมากที่สุด คำตอบที่ได้คือมีสต็อกที่โกลบอลเฮ้าส์ จังหวัดแพร่ค่ะ ให้ทางเราติดต่อไปที่สาขาได้เลยเด็กน้อยไม่รีรอก็รีบโทรไปที่โกลบอลเฮ้าส์ สาขาแพร่ทันที โชคดีมากที่มีของแต่เราติดปัญหาเรื่องการจัดส่งอีกครั้ง แต่โชคก็เข้าข้างเราพนักงานที่รับสายเราพยายามช่วยเหลือเราดีมาก เขาพยายามหารถขนของที่จะวิ่งมาที่จังหวัดน่านให้
วันที่ 12 มีนาคม 2559 มีเสียงสวรรค์โทรมาจากโกลบอลเฮ้าส์สาขาแพร่ พี่แกหารถส่งของให้เราได้ โดยให้เราโอนตังค์จ่ายค่าคอนวูดเข้าสาขาแพร่เลย แถมยังให้จ่ายค่าส่งของกับเจ้าของรถเองที่ปลายทาง ค่าส่งให้เราตกลงกับคนขับรถเองเลย ตอนนั้นเขาคิด 500 บาทสำหรับขนคอนวูด G1 จำนวน 24 แผ่น ความใจดียังไม่จบ ยอดเงินที่เราซื้อไป 4,000 บาทกว่า ได้รับส่วนลดหรือคูปองเพิ่มอีก 200 บาท พี่แกก็โทรมาหาเราอีกว่าอยากได้อะไร เราก็จัดไป หลอดไฟ LED จำนวน 1 ดวง ราคา 119 บาท ดีใจสุด ๆ น้ำตาไหล ปลื้มใจ น้ำใจคนแพร่ อิอิ (ฝากขอบคุณพี่สาวพนักงานโกลบอลเฮ้าส์สาขาแพร่ด้วยนะคะ ที่ให้การช่วยเหลือเด็กน้อยวันนั้นตื่นเต้นจนลืมถามชื่อเลย ถ้าพี่มีโอกาสได้มาอ่านกระทู้นี้หนูขอบคุณพี่สาวมาก ๆ นะคะ ขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ)
วันที่ 13 มีนาคม 2559 หลังจากได้คอนวูด 24 แผ่นที่ขาดหายไป ช่างก็ดำเนินการต่อ บุผนังเรียบร้อย เย้ ๆ ๆ สมดั่งความตั้งใจของเด็กน้อยแล้ว ส่วนช่างทาสีและช่างไฟก็ระดมกันอย่างหนัก เหลือเวลาอีกแค่ 5 วัน ก่อนจะเตรียมการทำบุญขึ้นบ้านใหม่
งานสีก็ใกล้เสร็จแล้ว ภายในเป็นสีฟ้า-ขาว ภายนอกเป็นสีเขียว-ขาว เราอยากให้บ้านดูแล้วเย็นตา อยู่แล้วเย็นสบายและอบอุ่น
โคมไฟภายนอกกับโคมช่อเราซื้อที่โฮมโปรศรีราชา เพราะไปดูที่โกลบอลเฮ้าส์น่าน ไม่มีสต๊อกเลยต้องกลับมาซื้อที่นี่ แล้วฝากรถทัวร์ไปส่วนต่างราคาที่โฮมโปรกับโกลบอล ประมาณ 2,000 กว่าบาท แต่เราจ่ายค่าขนส่ง 870 บาท ก็ถือว่าเซฟตังค์ได้อีกนิด
ระหว่างรอช่างเก็บรายละเอียด เราก็เอาประตูหน้าต่างเก่าที่เหลืออยู่ไปให้ญาติที่เป็นช่างไม้ทำโต๊ะให้ เอาวัสดุที่มีอยู่มาปรับใช้จะได้ไม่ต้องเสียตังค์ซื้ออีก ได้หลาน ๆ ช่วยวาดรูปแต่งเติมสีสันให้ก็ขึ้นชื่อว่าคบเด็กสร้างบ้านอะนะ หลาน ๆ ก็เลยจัดแบบเด็ก ๆ ให้เลย ชุดโต๊ะอาหารโดราเอมอน แล้วรอช่างมาใส่กระจกให้อีกทีค่ะ
ทุกอย่างเสร็จสิ้นเกือบ 100% ช่างมาติดกระจกและใส่ระแนงด้านบนเพิ่ม
ประตูใหญ่สีขาว ดูแล้วบ้านเป็นสีเขียว-ขาวเยอะเกินไป เราเลยขอให้ช่างทาสีสีน้ำตาลให้ ความคิดส่วนตัวเลย
เช้าวันที่ 18 มีนาคม 2559 เราเดินทางถึงบ้านเพื่อเตรียมจัดงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่วันที่ 19 มีนาคม 2559 ตามกำหนดการเดิม เตรียมงานก็เป็นแนวเด็กน้อยใส่ลูกโป่ง (งานทำบุญบ้านใหม่หรืองานวันเด็กล่ะนี่) วันนั้นก็มีญาติและเด็ก ๆ มาช่วยงานเยอะเลยค่ะ เพราะเราตัวเล็กดูเหมือนเด็กน้อยชอบเล่นกับเด็ก ๆ เลยถูกเรียกว่าหัวหน้าแก๊ง 5555
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่สละเวลามานั่งอ่านกระทู้เด็กน้อยกระทู้นี้ เจ้าของกระทู้อาจจะใช้ภาษาบ้าน ๆ ธรรมดา แบบเด็กน้อยไปหน่อยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่อยากมีบ้าน ทุกคนมีความฝันแต่ฝันนั้นจะเป็นจริงได้ถ้าเราลงมือทำ เด็กน้อยอย่างเราทำได้แล้ว คุณก็ทำได้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ
ที่มา : iMeenZq ไพลินสีน้ำเงิน